“ก.เกี๊ยวกุ้ง”...อ.อร่อยเต็มคำ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 สิงหาคม 2555 13:29 น.

บรรยากาศภายในร้าน
       ปกติแล้ว เวลาสอนเด็กๆ ท่อง ก-ฮ เราก็จะเริ่มกันที่ ก.เอ๋ย ก.ไก่, ข.ไข่ ในเล้า… แต่ครั้งนี้ “ผ่านมาแวะกิน” ขอเปลี่ยนเป็น “ก.เกี๊ยวกุ้ง” แทนแล้วกัน เพราะเพิ่งได้ไปเจอร้านที่ชื่อเดียวกันนี้ ตั้งอยู่ละแวกถนนแจ้งวัฒนะ เล็งแลอยู่ด้านหน้าร้านแล้วก็ตัดสินใจว่าจะลองเข้าไปชิมดูสักที ว่าแล้วก็ตามกลิ่นน้ำซุปหอมๆ เข้าไปนั่งรอในร้านกันเลย
      
       พอดิบพอดีกับที่เจ้าของร้านยืนต้อนรับอยู่ ก็เลยได้สอบถามว่าที่ร้าน “ก.เกี๊ยวกุ้ง” นั้นมีอะไรให้ลองชิมบ้าง สรุปว่าที่ร้านจะมีอาหารเมนูเส้นขายเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นบะหมี่เกี๊ยว ผัดไทย ก๋วยเตี๋ยวคั่ว และยังมีของกินเล่นให้เลือกมารองท้องอีกกว่า 10 เมนู
ซุปเปอร์โบว์ล
       เมื่อลองอ่านจากเมนูแล้วก็ให้ชอบใจในความคิดสร้างสรรค์ของชื่อเมนู ทั้งผัดไทยไวไฟ (Wifi) ก๋วยเตี๋ยวไอผัด (iPad) แถมตัวเมนูยังทำให้มีหน้าตาคล้ายกับไอโฟนและไอแพต เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าอย่างมาก
      
       เห็นรายชื่อที่เรียงรายอยู่แล้วก็สะดุดตากับเมนู ซุปเปอร์โบว์ล (75 บาท) ที่เมื่อมาเสิร์ฟแล้วต้องตะลึงกับปริมาณในชาม เพราะใส่มาทุกอย่างที่มีอยู่ในร้าน ทั้งบะหมี่ 4 สี 4 รส เกี๊ยวกุ้ง เนื้อปู และหมูแดง เริ่มจากบะหมี่ 4 สี สีดำทำจากงาดำบดผสมกับแป้ง สีส้มทำจากกุ้งแห้งบดผสมแป้งและไข่ สีเหลืองเป็นบะหมี่ไข่ และสีเขียวคือบะหมี่หยกใส่ใบเตย ลองชิมบะหมี่แต่ละอย่างนั้นเหนียวนุ่มอร่อยพอดี ส่วนเกี๊ยวกุ้งก็เต็มปากเต็มคำ เนื้อปูสีขาวๆ และหมูแดงที่หมักมาแบบได้ที่ ก่อนจะนำไปอบให้สุด เลยได้ความหวานหอม เนื้อนุ่มกลมกล่อม บะหมี่ชามนี้จะสั่งเป็นน้ำหรือแห้งก็ได้ตามชอบ
เกี๊ยวปู
       ส่วนต่อไปขอลอง เกี๊ยวปู (55 บาท) ชามนี้ใส่เกี๊ยวกุ้งที่ไส้เป็นหมูบดผสมกุ้งบด ปรุงรส แล้วนวดจนเด้งได้ที่ แล้วจึงนำมาห่อกับแผ่นเกี๊ยวให้มีขนาดใหญ่เต็มคำ นำมาลวกจนไส้สุก ใส่กวางตุ้งลวก และเนื้อปูทะเลโรยหน้า ลองชิมเฉพาะเกี๊ยวก็อร่อยนุ่ม ได้รสชาติกุ้งเนียนละเอียด แถมหวานเนื้อปูทะเล ซดน้ำซุปร้อนๆ หวานหอมกลมกล่อม
      
       เมนูผัดไทยที่ร้านนี้ก็ไม่น้อยหน้า ต้องลอง ผัดไทยต้มยำกุ้ง (50 บาท) เป็นเมนูที่ทางร้านคิดขึ้นเอง ใช้เครื่องต้มยำที่ปรุงมาได้รสชาติแล้วลงไปผัดกับเครื่องผัดไทย และเส้นจันทน์ กลายเป็นผัดไทยแบบประยุกต์ ใช้ไข่เป็ดลงไปผัดจนสุก เสิร์ฟมากับผักเครื่องเคียง แถมยังมีแคบหมูให้กินคู่กันฟรีๆ อยู่บนโต๊ะ ผัดไทยจานนี้ยกมาแล้วหอมหวนชวนหิว ชิมแล้วได้รสต้มยำแท้ๆ จัดจ้าน เส้นก็นุ่มกำลังดี
ผัดไทยต้มยำกุ้ง
       ขอปิดท้ายด้วยเมนู ก๋วยเตี๋ยวคั่วทะเล (50 บาท) หน้าตาออกมาคล้ายๆ พิซซ่า จานนี้ทำจากเส้นใหญ่ที่ทอดให้เป็นแผ่นกรอบๆ แล้วจึงใส่ไข่ ใส่เนื้อปลาอินทรี กุ้งสด และหมึกกรอบ ทอดจนสุกแล้วโรยหน้าด้วยต้นหอม กินคู่กับซอสพริกและปาท่องโก๋กรอบที่เตรียมไว้อยู่บนโต๊ะ ตักเฉพาะเส้นขึ้นมาลองลิ้มได้ความกรอบนอกนุ่มใน หอมกลิ่นไข่ โรยซอสพริกลงไปเพิ่มอีกนิดก็ยิ่งได้รสชาติ
      
       แต่ถ้าอยากลองเมนูอื่นๆ บ้างก็ขอแนะนำ บะหมี่เกี๊ยวปูหมูแดง (55 บาท) ที่เลือกบะหมี่สีไหนก็ได้ตามชอบ หรือจะเป็น ผัดไทยมันกุ้ง+กุ้งสด (50 บาท) คั่วไก่แบบนุ่ม (40 บาท) ผัดไทยน้ำมะขามกุ้งสด (45 บาท) เป็นต้น และหากว่าอิ่มของคาวแล้ว แนะนำให้สั่งขนมหวานนานาชนิดจากร้าน “กะทิสด” ที่อยู่ติดกันมาลองชิมด้วย จะได้อิ่มอร่อยแบบครบถ้วน
ก๋วยเตี๋ยวคั่วทะเล
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       ร้าน “ก.เกี๊ยวกุ้ง” ตั้งอยู่ที่ 29/5-6 ซอยแจ้งวัฒนะ 14 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. การเดินทางจากห้าแยกปากเกร็ด ให้วิ่งตรงมายังถนนแจ้งวัฒนะ มุ่งหน้าหลักสี่ ตรงมาเรื่อยๆ จนข้ามแยกคลองประปา จากนั้นจะเห็นห้างเทสโก้ โลตัส และห้างบิ๊กซี ให้ชิดซ้าย เลี้ยวเข้าซอยแจ้งวัฒนะ 14 (ซอยระหว่างบิ๊กซีและโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ) ตรงไปประมาณ 300 เมตร จะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายมือติดถนน สามารถจอดรถได้บริเวณหน้าร้าน ร้านเปิดทุกวัน เวลา 10.30-18.00 น. โทร. 0-2573-6071-2, 08-1630-4261 ดูรายละเอียดเกี่ยวกับร้านเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ก.เกี๊ยวกุ้ง

“Rocks”...เคป นิทรา หัวหิน อิ่มเพลิน เคลิ้มอารมณ์ทะเล

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤษภาคม 2555 11:21 น.

บรรยากาศโต๊ะนั่งสบายๆ ของ “ Rocks” รร.เคป นิทรา หัวหิน
       สายลมทะเลเย็นๆ พัดพามาแบบแผ่วเบา พาสร้างความสดชื่นทั้งกายและใจให้กับ “ตระเวนกิน” เป็นอย่างมาก เมื่อในมื้อนี้เราได้พาตัวเองมานั่งกินอาหารอร่อยๆ พร้อมกับเคลิบเคลิ้มไปกับบรรยากาศทะเลสวยๆ ของทะเลหัวหิน ถิ่นที่ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวตากอากาศใกล้กรุงเทพฯ
เชฟลัทธวัฒน์ เรืองวิจิตร ผู้รังสรรค์เมนูเลิศรส
       สถานที่ที่ “ตระเวนกิน” ได้พากายและท้องอันโหยหิวมาเติมเต็มความอิ่มก็คือที่ “Rocks” เป็นห้องอาหารของโรงแรมเคป นิทรา หัวหิน ที่ อยู่ใกล้กับทะเล ตั้งอยู่ติดกับสระว่ายน้ำใหญ่ของโรงแรมฯ เป็นห้องอาหารที่มีบรรยากาศชวนนั่งแบบผ่อนคลาย เพราะที่นี่ตกแต่งแนวโมเดิร์นกลมกลืนเข้ากับธรรมชาติของชายหาดหัวหินได้ อารมณ์ชายทะเล สายลมและแสงแดด เน้นใช้วัสดุธรรมชาติจากไม้สักแฝงไว้ด้วยความอบอุ่นชวนนั่งแบบสบายๆ มีทั้งโต๊ะนั่งด้านในห้องแอร์ และโต๊ะนั่งด้านนอกริมสระว่ายน้ำรับลมทะเลเย็นๆ และด้านบนของห้องอาหารยังมี “On the Rocks” เป็นบาร์ริมทะเลสุดฮิปให้ได้สังสรรค์กันยามค่ำคืน
      
       สำหรับอาหารอันชวนลิ้มรสของ Rocks มีมากมาย เพราะที่นี่บริการอาหารนานาชาติ มีทั้งอาหารไทยและอาหารชาติอื่นๆ แบบออริจินัล รวมถึงยังมีเมนูอาหารแนวฟิวชั่น ที่เป็นการนำเอาอาหารแนวตะวันออกมาผสมกับอาหารแนวตะวันตก จนออกมาเป็นอาหารจานเด็ดใหม่ๆ ที่ทางเชฟลัทธวัฒน์ เรืองวิจิตร ได้เลือกเฟ้นแต่วัตถุดิบชั้นดี มีคุณภาพ และนำเข้ามาจากต่างประเทศ เพื่อนำมารังสรรค์เป็นเมนูเลิศรสให้ได้เลือกสั่งมาลองลิ้มกัน
Watermelon Feta Cheese Salad
       อย่างที่ในมื้อนี้เราก็ได้ให้เชฟช่วยแนะนำเมนูเด่นๆ มาลิ้มลองกัน จานแรกที่เสิร์ฟมา คือ Watermelon Feta Cheese Salad (340 บาท++) เป็นสลัดที่ใช้แตงโมของไทยเรานำมาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า และมีเฟสต้าชีสนำเข้าจากอิตาลีหั่นมาเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเหมือนกัน และโรยด้วยโอลีฟออยล์เอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้น ใส่หอมแดงลูกใหญ่สไลซ์มาเป็นชิ้น และพริกไทยสีชมพูจากออสเตรเลีย กินแล้วสดชื่นปากมากกับแตงโมรสหวานฉ่ำเข้ากับชีสมันๆ เค็มๆ แล้วยังมีผักร็อกเก็ตราดด้วยบาซามิกเดรสซิ่งปรุงพิเศษให้กินคู่กันด้วย
Lobster Bisque
       ต่อด้วยซุปร้อนๆ อย่าง Lobster Bisque (340 บาท++) เป็นซุปน้ำข้นที่ปรุงด้วยกุ้งล็อบสเตอร์ภูเก็ตทั้งตัว นำมาปรุงเคี่ยวรวมกับส่วนผสมพิเศษสูตรเฉพาะ ใส่บรั่นดีและไวน์ขาวด้วย เคี่ยวซุปอยู่นานกว่า 2 ชม. แล้วนำมาปั่นละเอียดอีกที และมีเนื้อกุ้งล็อบสเตอร์ใส่มาด้วยในซุป ตกแต่งด้วยหัวกุ้งแม่น้ำ กินคู่กับเปาะเปี๊ยะทอดกรอบไส้เนื้อกุ้งล็อบสเตอร์ ซดซุปร้อนๆ หอมกรุ่น รสกุ้งละมุนหอมหวานเข้มข้นถูกปากดีแท้
Angel hair Pasta with Crabmeat
       จานต่อมาเป็นพาสต้า Angel hair Pasta with Crabmeat (370 บาท++) ที่ทางเชฟนำเอาพาสต้าเส้นแองเจิลแฮร์ที่ต้มสุกแล้วมาผัดกับโอลีฟออยล์เอ็กซ์ ตร้าเวอร์จิ้น ใส่กระเทียม พริกแห้ง เนื้อปูจากออสเตรเลีย ใส่ไข่ปูด้วย และมีผักร็อกเก็ตกับพาสลี่ผัดรวมกันมาแบบแห้งๆ ลิ้มรสแล้วถูกใจปากมากกับเส้นแองเจิลแฮร์เหนียวนุ่มรสกลมกล่อมเข้ากับ เครื่องเทศหอมๆ เนื้อปูสดๆ และไข่ปูเคี้ยวมันปาก
Herb-Crusted Australian Rack of Lamb
       แล้วถ้าใครชอบกินเนื้อแกะแนะนำว่าไม่ควรพลาดเมนูนี้ Herb-Crusted Australian Rack of Lamb (750 บาท++) เป็นเนื้อแกะออสเตรเลียส่วนซี่โครงนำมาหมักกับไวน์แดงและโรสแมรี่จนเข้า เนื้อ ก่อนจะนำมากริลล์ให้ได้ที่แล้วอบอีกที ราดด้วยน้ำเกรวี่สูตรพิเศษ แล่เนื้อแกะส่งเข้าปากเคี้ยวนุ่มชุ่มน้ำเกรวี่รสกลมกล่อม ไม่มีกลิ่นสาบแกะให้เคืองจมูก แถมยังมีมันบดผสมเห็ดทรัฟเฟิลขาวและดำใส่ทรัฟเฟิลออยล์รสเนียนละมุนให้กิน เคียงกัน และมีหอมทอดกับเบเบี้แครอตผัดเนยให้กินแกล้มด้วย
Pavlova with Fresh Tropical Fruits
       กินของคาวแล้วก็ต้องกินของหวานล้างปากกันด้วย Pavlova with Fresh Tropical Fruits (190 บาท++) เป็นของหวานเมนูเด่นที่ทำมาจากไข่ขาวผสมกับน้ำตาลตีให้ขึ้นฟูแล้วอบ (คล้ายเมอร์แรง) ท็อปด้วยวิปปิ้งครีมที่เชฟตีเอง และมีผลไม้นานาชนิดใส่มาด้านบน ราดด้วยซอสเสาวรสสูตรพิเศษ มาให้ลิ้มรสด้วย ขอยกนิ้วให้เลยในความเบาเนียนนุ่มหวานกินแล้วสดชื่นปากกับผลไม้สดๆ และซอสเสาวรสอมเปรี้ยวนิดๆ
Balsamic Strawberries with Ginger Snaps
       Balsamic Strawberries with Ginger Snaps (220 บาท++) อีกหนึ่งของหวานที่น่ากิน เป็นแผ่นแป้งน้ำตาลสูตรเฉพาะของเชฟที่อบจนแข็ง แล้วก็มีสตรอเบอร์รีที่นำมาต้มกับบาซามิกและน้ำตาลจนได้เป็นสตรอเบอร์รีรส ชาติพิเศษสูตรของเชฟใส่มาพร้อมกับวิปปิ้งครีม ทำสลับกันเป็นชั้นๆ โรยหน้าด้วยน้ำตาลไอซิ่งแต่งด้วยวิปปิ้งครีมและสตรอ
       เบอร์รีสด ลิ้มรสแล้วถูกปากดีกับแผ่นแป้งน้ำตาลกรุบกรอบหวานๆ เข้ากับสตรเบอร์รีหวานๆ อมเปรี้ยวหอมกลิ่นบาซามิก เนียนนุ่มวิปปิ้งครีมเข้ากันดีจริงๆ
โต๊ะนั่งรับลมทะเลเย็นๆ ด้านนอก
       นอกจากเมนูที่ได้นำเสนอมาเหล่านี้แล้ว เชฟยังได้แนะนำเมนูอื่นๆ ที่ชวนกินอีก อาทิSautéed Hokkaido Scallops with Saffron Potatoes, Asparagus and Aioli (490 บาท++) Penne All Arrabbiata with Lobster (990 บาท++) Whole Lobster Thermidor (1,980 บาท++) และอีกหลากหลายเมนูรสเลิศที่น่าลองลิ้ม หากใครมีโอกาสมาเที่ยวทะเลหัวหิน ก็ลองแวะมาเติมเต็มความอิ่มกันที่ “Rocks” โรงแรมเคป นิทรา หัวหิน กันได้ แล้วจะได้อิ่มอร่อยแบบชิลชิล กับบรรยากาศทะเลงามๆ
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       “Rocks” ตั้ง อยู่ภายในโรงแรมเคป นิทรา หัวหิน (ในเครือโรงแรมเคป คอลเล็คชั่น / เครือเดียวกับโรงแรมเคป พันวา ภูเก็ต) 97/2 ถ.เพชรเกษม อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดบริการทุกวัน เวลา 06.30-11.00 น. (บริการบุฟเฟต์อาหารเช้านานาชาติ) 12.00-23.00 น. (บริการอาหารแบบ
       a la carte) โทร. 0-3251-6600 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.capenidhra.com

“ฝ้ายคำ” รสเลิศล้ำ ท่ามกลางแมกไม้

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 พฤษภาคม 2555 17:48 น.

บรรยากาศโต๊ะนั่งสบายๆ ที่ร้าน “ฝ้ายคำ”
       หากใครอยากนั่งหม่ำอาหารท่ามกลางแมกไม้ร่มรื่น ร้าน “ฝ้ายคำ” ที่ตั้งอยู่ตรงถนนบางนา-ตราด กม. 3 เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่ชื่นชอบในบรรยากาศรื่นรมย์แบบนี้
      
       ร้านนี้เปิดมานานแล้วกว่า 20 ปี ตัวร้านกว้างขวาง มี 2 ชั้นเปิดโล่งรับลมธรรมชาติ มีโต๊ะนั่งในมุมสบายๆ ท่ามกลางแมกไม้น้อยใหญ่ นั่งแล้วรับลมเย็นๆ พาใจให้สบายสดชื่น แต่ถ้าใครชอบนั่งแบบห้องแอร์ฉ่ำทางร้านก็มีบริการ แถมยังมีห้องวีไอพีให้บริการอีก 4 ห้อง
      
       จากบรรยากาศร้านที่ชวนนั่งสบายๆ มาถึงเรื่องอาหารของที่นี่ก็ชวนกินมากมาย ทางร้านเน้นขายอาหารไทย รวมถึงยังมีอาหารจีน และอาหารซีฟู้ด ซึ่งเมนูต่างๆ ที่มีขายทางร้านได้คิดค้นสูตรขึ้นมาโดยเฉพาะ และเน้นปรุงแต่งแบบให้ได้รสชาติที่เข้มข้นจัดจ้าน ซึ่งมีเมนูแบบหลากหลายให้ได้เลือกลิ้มลองกันตามชอบใจ
ยำถั่วพู
       อย่างในมื้อนี้เราก็เลือกที่จะลิ้มลองเมนูจานเด็ดมากมาย นำเสนอเมนูแรกเป็น ยำถั่วพู (100 บาท) ทางร้านนำถั่วพูสดไปลวกแล้วนำมายำคลุกเคล้ารวมกับถั่วลิสง มะพร้าวคั่ว กะทิ น้ำพริกเผา พริกป่น พริกขี้หนูสด ใส่กุ้งสดและเนื้อไก่ฉีก โรยหน้าด้วยหอมเจียวและพริกแห้งทอด เคียงมาด้วยไข่ต้ม ลิ้มรสยำถั่วพูเคี้ยวกรอบชุ่มรสชาติน้ำยำรสเข้มข้นหอมมันกะทิและมะพร้าวคั่ว
ส้มตำปูนิ่ม
       เมนูต่อมาอยากให้ลองชิม ส้มตำปูนิ่ม (160 บาท) เป็นส้มตำไทยครบเครื่องแบบจัดจ้าน เสิร์ฟมาให้กินคู่กับปูนิ่มชุบแป้งทอดกรอบ และเส้นหมี่ขาวลวก พร้อมกับผักสดต่างๆ กินส้มตำรสแซบ เข้ากับเส้นหมี่นุ่มๆ และปูนิ่มกรอบนอกนุ่มใน ถูกใจปากดีจริง
หน่อไม้ทะเลผัดบร็อคโคลี่
       ตามมาด้วยเมนูสไตล์จีน หน่อไม้ทะเลผัดบร็อคโคลี่ (350 บาท) หน่อไม้ทะเลที่ว่าก็คือหอยทะเลชนิดหนึ่ง ทางร้านนำมาผัดกับน้ำมันนิดหน่อยแล้วก็ราดด้วยน้ำแดงที่ปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษ มีเห็ดหอม แครอท และบร็อคโคลี่ใส่มาด้วย กินแล้วหน่อไม้ทะเลเคี้ยวนุ่มหนึบปากได้รสชาติน้ำแดงกลมกล่อมลิ้น
ปลาทับทิมทอดซอสกะหรี่
       จากนั้นมากิน ปลาทับทิมทอดซอสกะหรี่ (240 บาท) เป็นปลาทับทิมที่แล่เอาแต่เนื้อมาคลุกกับผงกะหรี่และเครื่องเทศไทยต่างๆ คลุกแป้งแล้วทอดจนเหลืองกรอบ และมาประกอบเป็นตัวปลาเหมือนเดิม มียำมะม่วงให้กินคู่กับเนื้อปลาทับทิมนุ่มกรอบหอมกลิ่นผงกะหรี่และได้รสชาติ เครื่องเทศนิดๆ กินเข้ากันดีกับยำมะม่วงรสจัดจ้าน
แกงเขียวหวานลูกชิ้นยัดไส้ไข่เค็ม
       แล้วก็ต้องลองลิ้มเมนูนี้ แกงเขียวหวานลูกชิ้นยัดไส้ไข่เค็ม (130 บาท) เป็นแกงเขียวหวานที่เข้มข้นด้วยกะทิคั้นสดและเครื่องแกงที่ทางร้านโขลกเอง ใส่เนื้อปลากรายแท้ๆ ที่ทางร้านทำเองถมยังยัดไส้ไข่เค็มไว้ในเนื้อปลากรายที่ปั้นมาเป็นลูกชิ้น กลมๆ และก็ใส่มะเขือยาวกับใบโหระพา ซดน้ำแกงเขียวหวานได้กลิ่นหอมๆ ของเครื่องแกงและรสชาติอันเข้มข้นถึงเครื่องพริกแกงจริงๆ ส่วนลูกชิ้นปลากรายเคี้ยวนุ่มหนึบหนับปากและได้รสชาติไข่เค็มที่กินแล้วเค็ม มันดีแท้
ต้มยำกุ้งน้ำข้น
       และขอปิดท้ายมื้ออิ่มด้วย ต้มยำกุ้งน้ำข้น (150 บาท) เสิร์ฟมาแบบหม้อไฟร้อนๆ เป็นต้มยำกุ้งน้ำข้นแบบครบเครื่องต้มยำ ใส่นมสดและกะทิสดนิดหน่อย ใส่กุ้งตัวโต เห็ดฟางและยอดมะพร้าว ชิมน้ำต้มยำกุ้งร้อนๆ แซบจัดจ้านถูกปาก กุ้งตัวโตเนื้อหวาน และเคี้ยวยอดมะพร้าวกรอบกรุบ
มุมโต๊ะนั่งร่มรื่นด้วยแมกไม้
       ถึงแม้จะปิดมื้ออิ่มไปแล้ว แต่เราก็ยังขอเมนูอาหารมาดู ก็เห็นว่ายังมีเมนูจานเด่นอื่นๆ ที่ชวนกินอีกมากมาย อาทิ เป็ดกาแฟ (320 บาท) กุ้งอบเกลือ (เป็นกุ้งแม่น้ำ 380 บาท) ปลากะพงนึ่งมะนาว (เริ่มต้น 260-300 บาท) แกงส้มแป๊ะซะปลาช่อน (240 บาท) หมูสะเต๊ะ (120 บาท) และอีกสารพัดอาหารรสดี ที่อยากจะเชิญชวนแฟนๆ นักกินลองแวะมาเติมเต็มความอิ่มกับอาหารรสเลิศ ท่ามกลางบรรยากาศร้านสบายๆ ที่ร้าน “ฝ้ายคำ” กันด้วยตัวเอง
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       “ฝ้ายคำ” ตั้งอยู่ ที่ 1120 กม. 3 ถ.บางนา-ตราด บางนา กทม. การเดินทางจากแยกบางนา ให้วิ่งเส้นบางนา-ตราด ขาออก ตรงมาเรื่อยๆ จนเลยเซ็นทรัลบางนา แล้วให้กลับรถที่สะพานกลับรถ แล้ววิ่งชิดซ้ายตรงไปเรื่อยๆ สังเกตซ้ายมือจะเห็นโรงพยาบาลบางนา ร้านฝ้ายคำจะอยู่ปากซอยบางนา-ตราด 30 เปิดทุกวัน เลา 11.00-23.00 น. ทางร้านรับจัดงานเลี้ยงโต๊ะจีน, บุฟเฟต์ ทั้งในและนอกสถานที่ด้วย โทร. 0-2393-0736, 0-2393-0652, 0-2746-8772-4

“ฟองดูว์ เฮ้าส์” บ้านของคนรักฟองดูว์

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 มิถุนายน 2555 12:58 น.

บรรยากาศโต๊ะนั่งแบบสบายๆ ภายในร้านฟองดูว์ เฮ้าส์
       “ฟองดูว์” (Fondue) เป็นอาหารดั้งเดิมของชาวสวิสเซอร์แลนด์ ที่มักจะนิยมกินกันในฤดูหนาว โดยนำเอาชีสมาตั้งไฟและหลอมละลายรวมกับไวน์ขาว และก็มีส้อมหรือเหล็กแหลมเสียบขนมปังแล้วจุ่มชีสร้อนๆ กิน เพื่อเสริมสร้างพลังงานและให้แคลอรีที่สูงมากๆ
      
       สำหรับเมืองไทยเราแล้วหากนักกินคนไหนคิดอยากจะกิน “ฟองดูว์” คงไม่ต้องรอให้ถึงหน้าหนาว เพราะหน้าหนาวบ้านเราเรียกว่าแทบจะไม่หนาวเลย หรือหนาวน้อยวันก็ว่าได้ แต่ว่าเราสามารถเลือกที่จะกินฟองดูว์ได้ตลอดทุกหน้า และได้ทุกวันตามใจปรารถนา
บรรยากาศโต๊ะนั่งดูอบอุ่น
       เพียงแค่พากันมาที่ “ฟองดูว์ เฮ้าส์” (Fondue House) ก็จะได้ลิ้มรสฟองดูว์เลิศรสกันแล้ว ซึ่งที่นี่เป็นร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศสซึ่งเป็นที่รู้จักของคนไทยมากว่า 30 ปีแล้ว มีฟองดูว์สไตล์สวิสเซอร์แลนด์และฝรั่งเศสขนานแท้ให้ได้ลิ้มรส และยังมีอาหารยุโรปให้ได้ลิ้มลองกันด้วย
ฟองดูว์ชีส
       ว่าแล้วเมื่อมาถึงร้านแล้วก็อย่ามัวรอช้าสั่งฟองดูว์มาลิ้มรสกันเลยดีกว่า เริ่มด้วย ฟองดูว์ชีส (600 บาท+/หม้อ) เป็นฟองดูว์สไตล์สวิสฯ แท้ๆ เสิร์ฟมาแบบครบชุด คือมีหม้อตั้งไฟ ที่ภายในหม้อเป็นชีสจากสวิสฯ ที่คัดเลือกมาเป็นพิเศษ นำมาผสมกับไวน์ขาว และเหล้า คนผสมรวมกันกว่าครึ่งชั่วโมง เสิร์ฟมาพร้อมกับขนมปังอบที่ทางร้านทำเอง เวลากินให้คนชีสไปเรื่อยๆ แล้วใช้แท่งเหล็กยาวปลายแหลมจิ้มขนมปังอบแล้วจุ่มลงไปในชีสร้อนๆ แล้วเอาขึ้นมาจะเห็นได้ถึงสัมผัสของชีสที่เหนียวยืด พอส่งเข้าปากกินแล้วละมุนลิ้นกับชีสหอมๆ รสเข้มข้นนุ่มยืดเข้ากับขนมปังกรอบเป็นที่สุด
ฟองดูว์น้ำมัน
       แล้วก็ตามติดมาด้วย ฟองดูว์น้ำมัน (400 บาท+/คน) เป็นฟองดูว์น้ำมันสไตล์ฝรั่งเศส ที่เสิร์ฟมาแบบครบชุดเช่นกัน คือมีหม้อสเตนเลสที่ใส่น้ำมันลัมตั้งไฟมา และก็มีเนื้อสัตว์ให้เลือกต่างๆ ซึ่งใน 1 ชุด สามารถเลือกเนื้อได้ 4 อย่าง ไม่ว่าจะเป็น เนื้อแกะนำเข้าจากออสเตรเลียหมักกับไวน์และบรั่นดีสูตรพิเศษ เนื้อไทยส่วนสันในที่คัดสรรมาอย่างดีหมักด้วยเครื่องสูตรพิเศษ กุ้ง ไก่ เนื้อหมู ตับ หอยนางรมห่อเบคอน ปลากะพง เวลากินก็นำเนื้อสัตว์จุ่มลงไปในน้ำมันร้อนๆ พอสุกได้ที่ก็นำขึ้นมาจิ้มกับซอสรสเด็ดที่ทางร้านทำเอง ซึ่งมีหลายรสชาติ คือ ทาร์ทาร์ซอส บาร์บีคิวซอส เทาซันด์ไอส์แลนด์ซอส ซอสแตงกวา และยังมีสลัดผักและขนมปังกระเทียมเสิร์ฟมาให้กินเคียงกันด้วย
ฟองดูว์ชอคโกแลต
       จากนั้นสลับรสชาติจากของคาวมากินของหวาน คือ ฟองดูว์ชอคโกแลต (300 บาท+/ที่) เป็นฟองดูว์สไตล์ฝรั่งเศสเช่นกัน โดยมีหม้อใส่ชอคโกแลตที่ทางร้านคัดสรรสชอคโกแลตแท้ๆ อย่างดี นำมาผสมกับบรั่นดีด้วย และจุดไฟมาพร้อมกับผลไม้สด อย่างกล้วยหอม สตรอเบอร์รี่ แอปเปิ้ล และขนมปังกรอบเป็นแท่งๆ ที่ทางร้านทำเอง เวลากินก็ให้นำผลไม้จุ่มลงไปในชอคโกแลต แล้วส่งเข้าปากจะสัมผัสได้ถึงรสชาติอันเข้มข้นของชอคโกแลตแท้ๆ ที่หอมหวานได้ใจ
ซุปหัวหอม
       และใช่ว่าที่นี่จะมีแต่ฟองดูว์เลิศรสให้ได้ลิ้มลองเท่านั้น เพราะว่ายังมีเมนูยุโรปอื่นๆ ที่ชวนกินไม่แพ้กันด้วย ไม่ว่าจะเป็น ซุปหัวหอม (150 บาท+) สไตล์ฝรั่งเศสที่ตัวน้ำซุปได้จากน้ำสต็อกเนื้ออย่างดี ใส่หัวหอมลงไปเคี่ยวด้วยนานกว่า 5-6 ชม. และใส่ขนมปังที่อบมากับชีสลงไปในซุปด้วย เสิร์ฟมาแบบร้อนๆ เป็นซุปหัวหอมที่เข้มข้นหวานหอมกลมกล่อมละมุนลิ้นเป็นยิ่งนัก
ลีลาการปรุงเครปซูเซท
       เครปซูเซท (320 บาท+) เป็นอีกหนึ่งของหวานสไตล์ฝรั่งเศสที่ขึ้นชื่อของทางร้าน ที่ถ้าสั่งเมื่อไหร่จะได้เห็นขั้นตอนการทำ ซึ่งทางร้านจะโชว์การทำซอสส้มตามสูตรเด็ดที่จะนำมาราดลงบนแป้งเครปที่ทาง ร้านทำเอง เสิร์ฟคู่มากับไอศกรีมรสวนิลา โรยด้วยอัลมอนด์และใส่เชอร์รี่ ลิ้มรสแป้งเครปนุ่มนิ่มชุ่มซอสส้มเปรี้ยวหวาน กินคู่กับไอศกรีมเย็นๆ สดชื่นปากดีจริง
เครปซูเซท
       นอกจากนี้แล้วก็ยังมีเมนูอื่นๆ ที่น่าลองลิ้มอีก อาทิ สเต็กคาเฟเดอปารีส (400 บาท+) สันในหมูราดซอสเห็ดเนยแข็ง (320 บาท+) เนื้อแกะนิวซีแลนด์ (400 บาท+) เป็ดซอสส้ม (300 บาท+) ไก่ย่างอบชีส (200 บาท+) ฯลฯ เรียกว่าหากใครที่ชื่นชอบกินฟองดูว์สไตล์สวิสฯ และฝรั่งเศสแท้ๆ ก็อยากให้ลองแวะเวียนมาที่ ”ฟองดูว์ เฮ้าส์” เพราะไม่แน่ที่นี่อาจจะกลายเป็นร้านประจำของคนรักฟองดูว์อย่างคุณไปเลย
โต๊ะนั่งด้านนอกรับลมเย็นๆ
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       ”ฟองดูว์ เฮ้าส์” (Fondue House) ตั้งอยู่ที่ 25/4 ซ.ชำนาญอักษร ถ.พหลโยธิน9 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. การเดินทางจากรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีอารีย์ ลงฝั่งมุ่งหน้าไปสะพานควาย ตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซ.พหลโยธิน 9 ตรงเข้ามาในซอยประมาณ 200 เมตร แล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าซ.ชำนาญอักษร ตรงเข้ามาอีก 50 เมตร ร้านฟองดูว์ เฮ้าส์จะอยู่ด้านซ้ายมือ เปิดทุกวัน เวลา 11.00-14.00 น. และ 18.00-23.00 น. ถ้ามากินแนะนำว่าควรโทร .มาจองโต๊ะก่อน โทร. 0-2279-4731
5 สุดยอดร้านสุกี้ทั่วกรุง 5 สุดยอดร้านโจ๊กในกรุงเทพ 50 อาหารแปลกแต่ขายดีของญี่ปุ่น 101 เมนูซูชิ 5 สุดยอดร้านกระเพาะปลาในกรุงเทพ อาหาร 100 อย่างตามทางรถไฟสายยามาโนเตะ อาหารเวียดนาม ขนมไทยโบราณที่น่าจดจำ และ ขนมไทยมงคล ๙ อย่าง 30 อันดับขนมหวานเมืองคามาคูระประเทศญี่ปุ่น อาหารประเทศอาเซียน 7 ขนมหวานยอดฮิตของเยอรมัน  อาหารลาว 10 สายพันธุ์งูน่าทึ่ง 25 สถานที่ดำน้ำทั่วโลก 25 สัตว์น้ำรูปร่างหน้าตาประหลาด ไขปริศนาใครคือแจ๊คเดอะริปเปอร์ (Jack The Ripper) 20 พืชผักแปลกสายพันธุ์เก่าแก่ 10 อันดับสัตว์มีพิษ ตำนานธอร์ (Thor) เทพสายฟ้า 10 อันดับสัตว์สถาปนิก 15 สัตว์โลกสวยงามที่ใกล้สูญพันธุ์ เปิดแฟ้มลับชีวิตรัก อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) เห็ดมีพิษ 10 อันดับฆาตกรเด็ก 10 อันดับสัตว์ผีดูดเลือด 10 อันดับสัตว์แปลกที่คนไทยนิยมเลี้ยงมากที่สุด 10 เกมส์ดีที่โลกควรรู้จัก ช่วยฝึกสมอง เด็กเล่นได้ไม่รุนแรง แนะนำ Android Games Cloud Computing http://megatopic.blogspot.com/2013/08/20-90s.html http://megatopic.blogspot.com/2013/12/dead-island-riptide.html http://megatopic.blogspot.com/2013/09/blog-post_2.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/application-iphone-ipad-1.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/blog-post_866.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/101.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/application-iphone-ipad-1.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/botox-filler.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_8739.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_8.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/great-wall-of-china.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_3921.html http://megatopic.blogspot.com/2013/10/blog-post_24.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_8781.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/blog-post_23.html http://www.blogger.com/%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7...%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_19.html http://megatopic.blogspot.com/2013/10/blog-post_6477.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/butterfly-pea.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_7684.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/blog-post_6.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_27.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/nikita-khrushchev.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_16.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_3574.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/8.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/blog-post_22.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_954.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_28.html http://megatopic.blogspot.com/2013/09/blog-post_17.html http://megatopic.blogspot.com/2013/11/2-tasty-too.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/blog-post_22.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/10.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/7.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_4.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/blog-post_7834.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/stephen-hawking.html http://megatopic.blogspot.com/2013/09/10_13.html http://megatopic.blogspot.com/2013/09/10_27.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/10.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_14.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/acerola-cherry.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_18.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/albert-einstein.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_30.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/blog-post_26.html http://megatopic.blogspot.com/2013/09/blog-post_6378.html http://megatopic.blogspot.com/2013/09/blog-post.html http://megatopic.blogspot.com/2013/10/blog-post_28.html http://megatopic.blogspot.com/2013/11/blog-post_24.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/apache-helicopter.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/blog-post_7038.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/25_22.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/blog-post_20.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/blog-post_28.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_4929.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/blog-post.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_18.html