Spaghetti chicken & cream

credit   Nontarchi  bloggang.com
Spaghetti chicken & cream



Free TextEditor

สวัสดีครับ ทุกท่าน 

วันนี้เนื่องจากเป็นวันว่าง (ซึ่งความจริงไม่ว่าง) ก็เลยอยากมาเปิดครัวกันหน่อย

ปกติ แล้วผมเป็นคนที่ชอบทำอาหาร ทั้งที่ปกติก็ทำมั่วๆๆ ไม่เคยดูสูตร ไม่เคยตวง เพราะที่บ้านไม่มีเครื่องอะไรซักอย่าง ตวง เติืง ช่างมัน

ฮ่าๆๆ เอาเป็นว่า วันนี้ก็เลยจะทำอะไรอร่อยๆ ซักอย่าง เท่าที่หาได้ในครัว และแล้ว ก็ได้ เมนูนี้มาจากหัวสมองส่วน ซิริเบรัม (ปล. เดาเอา)

และวันนี้ เราก็จะมาทำ สปาเก็ตตี้ผัดเปสโต้ไก่ทอดราดซอสครีม ชื่อจะยาวไปไหน กะว่าครั้งหน้าทำอาหารจะเอาชื่อให้ยาวเท่ากรุงเทพกันเลยทีเดียว




มาเริ่มกันเลยแล้วกันครับ




ก่อน อื่น ก็ต้องต้ม สปาเก็ตตี้ก่อนนะครับ ใช้เวลาก็ กะเอา อย่าเอา นุ่มเกินไปเพราะเราจะเอาไปผัดต่อ อ้อ อย่าลืมใส่เกลือนิดหน่อยด้วยนะ



เสร็จแล้วก็พักไว้อย่างนี้นะครับ



จากนั้นก็เอาไก่ออกมาจากตู้เย็น ตัดครึ่งนึงนะครับ เพราะผมทอดในหม้อ เพื่อไม่ให้น้ำมันกระเด็นใส่ผนัง ขี้เกียจเช็ด



ทอดจนเหลืองทองอร่ามงามตา แบบนี้




แล้ว ก็พักไว้บนทิชชู่แบบนี้ อย่าเอาทิชชู่เนื้อนิ่มนะัครับ เดี๋ยวมันจะติดไก่เป็นกาว แล้วเวลากินจะได้กินทิชชู่ไปด้วย น่าจะเข้ากันดี ให้เลือกใช้ ทิชชู่แบบแข็ง



จากนั้น ก็มาเริ่มผัดเส้นสปาเก็ตตี้ ของเรากับซอสเปสโต้ผสมใบโหระพา กัน อันนี้มจาก อิตาลีนะ



แล้วก็เอาผสมลงในหม้อ ผัดๆซัก สองสามนาที ก็พอแล้ว ถ้าแห้งไป ก็เติมน้ำได้พอเป็น กระษัย




เสร็จแล้ว เราก็จะมาทำ น้ำซอสครีมกัน โดยนำครีมที่มีในตู้เย็น เทลงไปในหม้อน้อย เปิดไฟแบบ เบามาก เหมือน เป่าเอา



แล้วก็ใส่เครื่องเทศที่มีอยู่ลงไป ใส่อะไรก็ได้ ผมใส่กระเทียบบด แล้วก็พริกไทย และเครื่องเทศอื่นๆ อีกนิดหน่อย



จาก นั้นก็จัดใส่จานแบบนี้ ราดซอสครีมลงบนเนื้อไก่ แล้วก็หาผักแกล้มบาง ให้ดูมีวิตามินสำหรับร่างกายบ้าง แล้วก็ โปรยผงปาปริก้าตอนจบ แค่นี้ก็จบแล้ว



และแล้วก็เสร็จ ขอให้อร่อยเ้ด้ออออ แล้วเจอกันกับเมนูหน้า

Walnut fudge chocolate Vanilla Cake

credit  ช้อย  bloggang.com
Walnut fudge chocolate Vanilla Cake


เค้กวนิลาฟัดจ์วอลนัทช็อคโกแลต





สูตร นี้ทำตั้งชื่อเก๋ไปแบบนั้น อันความจริงก็คือช็อคโกแลตวอลนัทเป็นมิลล์ช็อคฯ ธรรมดานั่นเอง ด้วยขณะนั้นฟ้าประทานมาเฉพาะวอลนัทช็อคฯ นน.ร่วม ๑ กก. ไหนจะเทาว์เบอโรนท์ดุ้นบิ๊กอีก ๒ ดุ้น กินไม่ทันครับ กลัวน้ำตาลพุ่ง แจกก็เสียดาย(ฮา) เพราะชอบ เก็บไว้นานก็กวนตากวนใจ เปิดตู้เย็นเห็นนอนแอ้งแม้งทับกันน่าสงสาร เลยตั้งใจเอามาทำเป็นหน้าเค้กจะดีกว่า





ผม ยังคงใช้สปันจ์วนิลาเค้กเป็นฐานสำหรับทำเค้กเมนูต่างๆ ด้วยผสมง่าย ไม่ต้องร่อนแป้ง ไม่เปลืองอุปกรณ์ ใช้เวลาเตรียมส่วนผสมไม่เกิน ๑/๒ ชม. นำเข้าอบอีกสัก ๓๐-๔๐ นาที และสำคัญที่สุดคือเค้กไม่ยุบไม่หด รวมเวลาตั้งแต่เตรียมถึงอบเสร็จประมาณ ๑ ชม. ค่อนข้างรวดเร็วสำหรับบางเวลาที่ต้องรีบเร่ง

ครั้งแรกตั้งใจทำฐาน เค้กเป็นบัตเตอร์ช็อคโกแลตคิดว่าคงจะเข้ากันกับหน้าแบบนี้เนื้อเค้กออกขม นิดๆ กับฟัดจ์ช็อคหวานๆ เข้มข้นดีบวกกับถั่ววอลนัทกรุบๆ ได้อารมณ์อีกแบบ





แต่ ไปเจอสูตรวนิลาเค้กที่ปาดแยมราสเบอรีตรงกลาง เลยเก็ทไอเดียทันทีเพราะช็อคโกแลตกับราสเบอรี่มันอยู่ในทฤษฎีขนมที่กินคู่ กันได้เหมาะสมบทหนึ่งเลย

เริ่มลงมือทำฟัดจ์วอลนัทช็อคฯ ก่อน ส่วนผสมมี วิปปิ้งครีม ช็อคโกแลตวอลนัท(มิลล์) รัม วิธีทำนำวิปปิ้งครีมตั้งไฟพอเดือดจากนั้นเทลงบน ช็อคโกแลตฯ รอสัก ๒-๓ นาทีแล้วคนผสมให้เนียนสุดท้ายเติมรัมไปสัก ๑ ชต. พักไว้

แล้วลงมือตี เค้ก นำเข้าอบ พักไว้ จากนั้นนำมาสไลด์กลางแล้วปาดแยมราสเบอรี่ (ต้องของสมัคเกอร์นะครับ ผมว่ารสชาติดี ) ประกบด้วยเค้กอีกแผ่นจากนั้นราดด้วยฟัดจ์ช็อคฯวอลนัท ใช้สปาตูล่าปาดไปมาไม่ต้องเนียนกริ๊บก็ได้ครับ เพราะเค้กแบบผมไม่ต้องเนียนแบบดิบๆ น่าจะเหมาะกับตัวผมมากว่า

และถึงเวลาชิมรสชาติมีขม หวาน เปรี๊ยว ๓ รสเลยครับ


ผัดผักให้สีสวยชวนรับประทาน

credit  โสดในซอย  bloggang.com
ผัดผักให้สีสวยชวนรับประทาน

ผัดผักให้สีสวยชวนรับประทาน







การผัดผักที่สีสวย น่ารับประทาน
มีวิธีการทำอย่างไร
มาดูขั้นตอนกันค่ะ



1. ต้มน้ำให้เดือด เติมเกลือ และน้ำตาลเล็กน้อย
เพื่อเพิ่มรสชาติให้กับผัก

2. นำผักที่เตรียมไว้
เช่น ถั่วฝักยาว หรือกะหล่ำปลี
หรือผักอะไรที่ต้องการให้สีสดเขียว น่ารับประทาน
ใช้เวลาต้มประมาณ 2 นาที

3. รีบตักผักแช่ในน้ำเย็นทันที
เพื่อเพิ่มความสดใสใหม่ของสีผัก
โดยแช่ประมาณ 2 นาที

4. จากนั้นนำมาใส่กระทะ
และผัดเร็ว ๆ ด้วยไฟแรง
แล้วจึงปรุงรสอาหารตามความต้องการ



หรืออีกเทคนิคง่าย ๆ ที่จะทำผัดผัก
ให้ออกมาน่าทาน กรอบกำลังดี ไม่ดิบและไม่นิ่ม
คือเตรียมตัดแต่งผักให้เรียบร้อย
ที่สำคัญผักต้องสะเด็ดน้ำให้แห้ง
กระทะเลือกให้ใช้กระทะก้นลึกแบบครัวจีน

นำไปตั้งไฟพอร้อนใส่น้ำมัน
แล้วเกลี่ยให้ทั่วกระทะ
จากนั้นใส่เสื้อสัตว์ลงไปผัดให้สุกก่อน
คิวต่อมา ใส่ผักที่สุกยากลงไปผัด
เท่านี้ก็จะได้จานผักผัดที่อร่อยแล้ว

กล้วยแขก

credit   Brunnett  bloggang.com
กล้วยแขก


ไม่ได้อัพบล็อกตัวเองซะ นาน...นานมาก แต่ก็เข้าไปอ่านบล็อกโปรดอย่างสม่ำเสมอ อย่างบล็อกป้าเดซี่ บล็อกคุณแดงแม่ปุ๊กปุ๋ย และบล็อกแม่ปู อยากอ่านอะไรสนุกๆต้อมจะนึกถึงสามบล็อกนี้ตลอด


วันนี้อยากชวน ทุกคนมากินกล้วยแขกกัน ไม่รู้มีใครชอบเหมือนต้อมหรือเปล่า เมื่อวานลองทำเล่นๆเทสต์รสชาดดูก่อนเผื่อทำแล้ว...มะล่าย จะได้ไม่ต้องถ่ายรูปให้เสียเวลา แต่ชิมดูแล้ว(ที่จริงไม่ได้ชิมแต่....จริง เพราะหมดเป็นกระจาด)ใช้ได้ๆ


อย่าถามหาที่มาของสูตรนะคะ...เพราะ มั่วเอา มีแป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว แป้งมัน แป้งโกกิ แป้งข้าวโพด และแป้งสาลี อยู่ในครัว เดาๆว่าเค้าน่าจะใช้แป้งอะไร เลยเอาแป้งข้าวเจ้ากะแป้งโกกิมาผสมกันซะงั้น ออกมากรุบๆกรอบๆพอกินได้อยู่


งั้นเรามาดูส่วนผสมกันเลยดีกว่า
กล้วย หอม(ใช้แทนน้ำว้าไปก่อน)เลือกลูกห่ามๆเพราะไม่ชอบกินกล้วยแขกที่ข้างในเละๆ แป้งข้าวเจ้า แป้งโกกิ เบคกิ้งโซดา เกลือ งา และน้ำเปล่า
Photobucket



ถ้าทำอะไรแล้วง่ายเหมือนปอกกล้วยก็คงดีเนอะ
Photobucket


หั่น
Photobucket



ผ่า
Photobucket



ผสมแป้งข้นๆ
Photobucket



เติมงา
Photobucket



ชุบ
Photobucket




ทอด
Photobucket



กลับด้าน
Photobucket




ตักขึ้นจากกะทะพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
Photobucket



จัดใส่จาน
Photobucket




อย่าลืมราดหน้าด้วย Ahornsirup และ น้ำตาลไอซ์ซิ่ง
Photobucket



กินคู่กับชาเขียว
Photobucket



ขอบอกว่าตอนกินนี่ไม่ได้กินกล้วยแขกสลับกับจิบชา
แต่ฟาดกล้วยหมดก่อนค่อยดื่มชา ก็มันอร่อยอ่ะ


บล็อกนี้ขอลาไปก่อนสวัสดีค๊า...........

Chocolate course at INBP ... No.4

credit  Badtzila   bloggang.com
Chocolate course at INBP ... No.4



Chocolate course at INBP ... No.4

 เหลืออีก 4 สัปดาห์ก็จะเรียนจบแล้ว
หลังจากนั้นก็สอบ CAP เริ่มเครียด กดดัน จากหลายอย่าง
ทั้งเรื่องภาษาและเนื้อหาที่เรียน ต้องมีสอบเลข วิทยาศาสตร์ทั่วไปและอาหาร
เศรษฐศาสตร์และกฏหมายพื้นฐาน ( ต้องเรียนเพราะสำหรับคนที่คิดจะเปิดร้านในอนาคต )
สุขอนามัยในการทำงาน และสุดท้ายทฤษฏีทั้งหมดเกี่ยวกับช๊อคโกแลตและวัตถุดิบในการทำขนม
และท้ายที่สุดกับปัญหาความอ่อนแอทางภาษาฝรั่งเศส ... Smiley


i
Rocher ... ข้างในเป็นพราลีน ขนาดไม่เท่ากันซักลูก
ไม่เห็นเหมือนเวลาไปซื้อของ เฟอเร่โร่ กินเลย ... อันนี้บิดๆ เบี้ยวๆ 55


คาราเมล 2 ชั้น ... ช๊อคโกแลต + พิตาชิโอ้


ไส้เป็นพราลีนแล้วเอาไปชุบช๊อคโกแลต แปะด้วย almond คั่วคาราเมล
ตอนทำ almond เมื่อยมือมากต้องคนตลอดคั่วจนล้า แต่อร่อย


ทุกวันศุกร์ก็เหมือนเดิม ตีมวันนี้เป็น fête des mères
หรือประมาณว่าวันแม่นั้นเอง


นึกอะไรไม่ออกก็จัดดอกไม้ กับ หัวใจ ไปก่อนแล้วกัน ... ไม่หลุดตีม


gianduja บีบแล้วแปะใข่น้ำตาล เตรียมไว้สำหรับช่วงอิสเตอร์


พฤ-ศุกร์ที่แล้วก็แยกนักเรียนทั้งห้องเป็น 2 กลุ่ม ... กลุ่มแรกไปสอบ white exam
ได้มาอยู่กลุ่มที่ 2 เตรียมของสำหรับไว้ขายช่วงอิสเตอร์ เหนื่อยมาก ...
เตรียมของอิสเตอร์แล้วต้องฝึกทำ showpiece ส่วนตัวไปด้วย


แล้วก็อาทิตย์นี้เองก็ถึงคราวของกลุ่มที่สองสำหรับ white exam
สำหรับการสอบ CAP chocolaterie confiserie นั้นการสอบปฏิบัติจะมีเวลาให้ 9 ชั่วโมง
แบ่งเป็น 2 วัน ... 6 ชั่วโมง + 3 ชั่วโมง การสอบจะมีตีมหัวข้อให้สำหรับการตกแต่ง
และจะกำหนดชนิดขนมและปริมาณมาให้ว่าต้องทำอะไรบ้าง เราไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้






  1. - ไส้พื้นฐานสำหรับการทำช๊อค ( praline , gianduja , ganache etc. )
       หลังจากนั้นจะต้องเอาไส้นี้ไปทำต่ออาจจะเป็นชุบช๊อคโกแลตหรือว่าแบบใส่พิมแล้วแต่โจทย์สั่ง
  2. - Dipping หรือ การชุบช๊อคโกแลต จะแบ่งเป็น 2 แบบคือปกติและการชุบแบบกลับด้าน อย่างละ 15 ชิ้น
       การชุบแบบกลับด้านคือการหมุนซ้อมตอนวางช๊อคโกแลต เพื่อให้ผิวหน้าแตะพื้น
  3. - bonbon molding แบ่งเป็น 2 ส่วนคือการทำ bonbon chocolate แบบใส่ไส้
       และการ molding chocolate ในพิมที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาางขั้นต่ำ 10cm
  4. - Chocolate showpiece น้ำหนัก 400 กรัม ... การตกแต่งตามหัวข้อที่กำหนด
  5. - Confectionery ของหวานที่ทำจากน้ำตาลตามที่หัวข้อกำหนด
       อาจจะเป็น candy, guimauve (marshmallow), nougat, nougatine, fruit jelly, caramel etc. แล้วแต่โจทย์สั่ง
  6. -  ขนมหนึ่งชนิดแล้วแต่ผู้สอบ อาจจะทำจากช๊อคโกแลตหรือน้ำตาล ( น้ำหนัก 300 กรัม )
  7. -  Entremet ก็คือเค้ก 1 ก้อน ... เนื้อเค้กและเกรซจะเตรียมไว้ให้ คือต้องทำมูสและประกอบเค้กพร้อมตกแต่งนั่นเอง
  8. เหนื่อและเครียดมาก แต่พอผ่าน white exam มาก็โล่ง ต้องทำ พราลีน จากนั้นเอาไปชุบช็อคโกแลตและทำแบบใส่พิมด้วย Confectionery ได้ทำ Caramel ... แล้วก็เลือกทำ เจลลี่มะม่วง

ข้าวผัดปู.....จ้า

credit  Calla Lily  bloggang.com
ข้าวผัดปู.....จ้า




เมื่อเช้าดูรายการทีวี..เขาทำข้าวผัดปูกัน


...วู้...ต่อมน้ำลาย...ลื่นปรู๊ดอยากกินขึ้นมาทันใด..คว้าตะกร้า


..บึ่งไปตลาด..ไปหาปูกัน












อร่อยสุดก็ปูทะเล...แต่วันนี้ได้ปูม้าแน่นปั๋งเลย


..เอามาแกะเอง..ได้ของสดสดและก็ถูกด้วย...เนื้อหวาน..แกะไปชิมไป


..อันไหนแกะไม่ออกก็เอาปากแกะ..ใครมาร้องเหมียวหมียวข้างข้าง


..เจ้าไข่ต้มจะเอามั่ง..ว่ะไอ้นี้..กินของดี..เอาไปนิดเดียวเดี๋ยวไม่พอ










เตรียมผักเขียวเขียวแดงแดง


..อยากกินอะไรก็ใส่อร่อยหมดแหละ








ใส่น้ำมัน..เจียวกระเทียม..ใส่หมูสับหน่อย


...เคาะไข่ใส่ไปซะ 3 ใบ...สุกแล้วตักพักไว้ก่อน











ผัดข้าวกับผักให้สุกใส่ซี้อิ้วหวาน..ปรุงรสซะ


..เห็นม่ะแววอร่อยมาแล้ว










สุกแล้วเอาไข่ที่พักเมื่อกี้ใส่ผัดเบาต่อ..ใส่เนื้อปูครึ่งหนึ่ง


..เก็บไว้อีกครึ่งให้ไข่ต้ม..เฮ้ยไม่ใช่...ไว้โรยหน้า











เอ้าดูกันเต็มเต็ม....










เคล็ดลับ..แกะปูเองจะได้ความสดใหม่มากว่าที่ซื้อ


จากตลาด..และถูกกว่ามาก..ซื้อข้าวผัดปูเขา...


แม่ค้าผัดมากทำให้เนื้อปูแหลกไป....









การทำอาหาร..อยู่ที่ความสุขของ...ผู้ที่เราทำให้กิน


..ให้ได้กินของดี...ของอร่อย....ไม่ต้องชมหรอก


..แค่กินหลายหลายจาน.....ก็ปลื้มแล้ว...


ฝีมือไม่เท่าไหร่...ใช้หัวใจทำแล้วกัน

รวมมิตรอาหารในปาร์ตี้วันสงกรานต์

credit  สาวญี่ปุ่น  bloggang.com
รวมมิตรอาหารในปาร์ตี้วันสงกรานต์

หยุด สงกรานต์ทีผ่านมาไม่ได้ไปไหนเลยคะ เรียกเพื่อน ๆ มาทานข้าวที่บ้านกัน 3 วันเลยทีเดียว วัน ๆ เลยอยู่แต่บ้าน ซุปเปอร์มาร์เกต และโยคะสตูดิโอ ทำอาหารหลายอย่างเลยคะ เอามาลงให้ดูเป็นไอเดียสำหรับคนจะทำอาหารไปงานปาร์ตี้ หรือจะจัดปาร์ตี้ที่บ้านนะคะ


ที่ เห็นในรูปนี้เป็นปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ กลุ่มที่เล่นโยคะด้วยกัน พร้อมครูอินเดียอีก 2 ท่าน ครูเค้าไม่ทานเนื้อสัตว์ นอกจากซีฟู้ด อาหารมื้อนี้เลยเกือบจะเป็นมังสวิรัติเลยทีเดียว มี Roast Vegetable Lasagna พาสต้ากระเพราทูน่า ปอเปี๊ยะทอด (อันนี้เพื่อนทำมาให้คะ) แล้วก็ Red Kidney Bean Dip ทานกับทาโก้ เป็นของทานเล่น



Shepherd's Pie เอาใจคนชอบทานเนื้อคะ สูตรนี้ทำมาหลายครั้งแล้ว อร่อยทีเดียว แต่คิดว่าต่อไปคงจะปรับสูตรให้เข้มข้นขึ้นอีกนิด อันนี้เหลือเยอะ เอาใส่กล่องให้เพื่อน ๆ กลับไปทานที่บ้านกัน



พาส ต้าผัดกระเพราไก่ มากินแก้เลี่ยน อันนี้เอาง่าย ๆ เลยคือใช้ซอสผัดกระเพราของโลโบ้ มาเติมไก่กับกระเพราะเพิ่มเข้าไป ซอสยี่ห้อนี้ต้องเติมน้ำตาลและน้ำปลาอีกหน่อยถึงจะอร่อยคะ



ต่อ มาเป็น Chicken & Pasta Bake หรือว่าจะเรียกมักกะโรนีอบชีสก็ได้คะ อันนี้เราเอาไก่ไปผัดกับหัวหอมและเห็ดเสียก่อน แล้วก็ทำครีมซอสโดยมีนม เนย และพาเมซานชีสเป็นส่วนผสม แล้วก็เอาส่วนผสมไก่กับมักกะโรนีต้มสุกมาคลุกรวมกัน โรยหน้าด้วยเชดด้าชีส และมอสซาเรลล่าซีส แล้วนำเข้าไปอบ



อัน นี้เราซื้อไส้กรอก S&P ที่ขายเป็นแพค ๆ เราว่าไส้กรอกเค้าอร่อยดีคะ แล้วก็ผัดหัวหอมจนนิ่มมาเป็นเครื่องเคียง ทานกับมันบดและเกรวี่ ทานง่าย ถูกใจทุกคน



มัดบด ทำง่าย ๆ ต้มมันให้สุกแล้วนำมาบด เติมนม เกลือ พริกไทย เข้าไป นำไปทานเคียงกับอาหารได้หลายอย่าง
5 สุดยอดร้านสุกี้ทั่วกรุง 5 สุดยอดร้านโจ๊กในกรุงเทพ 50 อาหารแปลกแต่ขายดีของญี่ปุ่น 101 เมนูซูชิ 5 สุดยอดร้านกระเพาะปลาในกรุงเทพ อาหาร 100 อย่างตามทางรถไฟสายยามาโนเตะ อาหารเวียดนาม ขนมไทยโบราณที่น่าจดจำ และ ขนมไทยมงคล ๙ อย่าง 30 อันดับขนมหวานเมืองคามาคูระประเทศญี่ปุ่น อาหารประเทศอาเซียน 7 ขนมหวานยอดฮิตของเยอรมัน  อาหารลาว 10 สายพันธุ์งูน่าทึ่ง 25 สถานที่ดำน้ำทั่วโลก 25 สัตว์น้ำรูปร่างหน้าตาประหลาด ไขปริศนาใครคือแจ๊คเดอะริปเปอร์ (Jack The Ripper) 20 พืชผักแปลกสายพันธุ์เก่าแก่ 10 อันดับสัตว์มีพิษ ตำนานธอร์ (Thor) เทพสายฟ้า 10 อันดับสัตว์สถาปนิก 15 สัตว์โลกสวยงามที่ใกล้สูญพันธุ์ เปิดแฟ้มลับชีวิตรัก อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) เห็ดมีพิษ 10 อันดับฆาตกรเด็ก 10 อันดับสัตว์ผีดูดเลือด 10 อันดับสัตว์แปลกที่คนไทยนิยมเลี้ยงมากที่สุด 10 เกมส์ดีที่โลกควรรู้จัก ช่วยฝึกสมอง เด็กเล่นได้ไม่รุนแรง แนะนำ Android Games Cloud Computing http://megatopic.blogspot.com/2013/08/20-90s.html http://megatopic.blogspot.com/2013/12/dead-island-riptide.html http://megatopic.blogspot.com/2013/09/blog-post_2.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/application-iphone-ipad-1.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/blog-post_866.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/101.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/application-iphone-ipad-1.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/botox-filler.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_8739.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_8.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/great-wall-of-china.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_3921.html http://megatopic.blogspot.com/2013/10/blog-post_24.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_8781.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/blog-post_23.html http://www.blogger.com/%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7...%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_19.html http://megatopic.blogspot.com/2013/10/blog-post_6477.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/butterfly-pea.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_7684.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/blog-post_6.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_27.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/nikita-khrushchev.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_16.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_3574.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/8.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/blog-post_22.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_954.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_28.html http://megatopic.blogspot.com/2013/09/blog-post_17.html http://megatopic.blogspot.com/2013/11/2-tasty-too.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/blog-post_22.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/10.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/7.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_4.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/blog-post_7834.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/stephen-hawking.html http://megatopic.blogspot.com/2013/09/10_13.html http://megatopic.blogspot.com/2013/09/10_27.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/10.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_14.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/acerola-cherry.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_18.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/albert-einstein.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_30.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/blog-post_26.html http://megatopic.blogspot.com/2013/09/blog-post_6378.html http://megatopic.blogspot.com/2013/09/blog-post.html http://megatopic.blogspot.com/2013/10/blog-post_28.html http://megatopic.blogspot.com/2013/11/blog-post_24.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/apache-helicopter.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/blog-post_7038.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/25_22.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/blog-post_20.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/blog-post_28.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_4929.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/blog-post.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_18.html