|
บรรยากาศภายในร้าน EST.33 |
|
|
ถึงแม้จะผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่มาแล้ว แต่ห้วงอารมณ์แห่งการเฉลิมฉลองวันเวลาแห่งความสุขสันต์ยังคงอบอวลอยู่ ดังนั้น "ตระเวนกิน" จึงอยากจะขอชวนมิตรรักนักกินไปปาร์ตี้สังสรรค์สร้างความสุขกันต่อ แถมยังขอเอาใจสิงห์นักดื่มเครื่องดื่มสีอำพันที่มีพรายฟองนุ่มกันด้วย เพราะว่าเราจะชวนไปดื่มเบียร์รสเลิศ แถมยังได้เรียนรู้การผลิตเบียร์ไปในตัวด้วย และมาพร้อมกับอาหารเลิศรส ยังร้านอาหารน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน แต่ว่ามีกระแสมาแรงและน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง นั่นก็คือร้าน "EST.33" ที่ตั้งอยู่ที่ CDC เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา
|
|
หม้อต้มเบียร์ทำจากคริสตัล |
|
|
"EST.33" ย่อมาจาก "Established in 1933" ซึ่งเป็นปีแรกที่บริษัทบุญรอดเปิดทำการ ต้องบอกเลยว่าร้านEST.33นี้ เป็นร้านอาหารที่มีสไตล์เฉพาะตัว มีคอนเซ็ปต์ร้านที่ว่า Edutainment : Education + Entertainment คือนอกจากจะได้รื่นรมย์กับการจิบเบียร์เย็นๆ แล้วยังจะได้เรียนรู้เรื่องการผลิตเบียร์ด้วย เพราะว่าทางร้านได้ยกเอากระบวนการผลิตเบียร์ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอน สุดท้ายมาโชว์ไว้ในร้านให้ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด โดยมีจุดเด่นอยู่ตรงกลางร้าน ซึ่งมีหม้อต้มเบียร์ที่ทำจากคริสตัลชั้นดีนำเข้าจากเยอรมันแห่งแรกในเอเชีย และยังเป็นหม้อต้มเบียร์แก้วเปิดที่แรกของโลก พร้อมทั้งยังมี Brew Master ที่ผ่านการอบรมจากประเทศเยอรมันมาคอยตอบคำถามให้กับเหล่านักดื่มที่อยากรู้ เรื่องเกี่ยวกับเบียร์ได้อย่างละเอียด ทำให้มื้อแห่งการดื่ม-กินมีความเพลิดเพลินและเสริมสร้างอรรถรสมากยิ่งขึ้น
|
|
อีกหนึ่งมุมนั่งเก๋ๆ |
|
|
และด้วยความที่เป็นร้านอาหารที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง ดังนั้นเบียร์ที่มีขายอยู่ที่ร้านจึงเป็นเบียร์ที่คิดค้นขึ้นมาเป็นพิเศษ สำหรับร้านEST.33 โดยเฉพาะ เป็นเบียร์สดซึ่งมีอยู่ 3 สูตรใหม่และมีเสิร์ฟที่นี่ที่เดียว ซึ่งผสานสุดยอดของโลกตะวันตกและวันออกไว้ด้วยกันอย่างกลมกล่อม จากฝีมือของ Brew Master ชาวเยอรมันถิ่นต้นตำรับของเบียร์มารวมกับส่วนผสมดีมีคุณค่าจากเอเชีย ออกมาเป็นเบียร์ 3ชนิดที่ชวนดื่มเอามากๆ
ขอนำเสนอเบียร์ชนิดแรกคือ Lager Beer เป็นเบียร์ยอดนิยมสีทองอ่อนๆ ผลิตจากวัตถุดิบคัดพิเศษ ด้วยข้าวบาร์เลย์มอลต์ชั้นดี เติมฮอปส์จากยุโรปที่ให้ทั้งกลิ่นหอมและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ แล้วหมักบ่มอีกราว 3 สัปดาห์จนได้เบียร์ลาเกอร์พรายฟองสีทอง น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ เพราะรสชาตินั้นกลมกล่อมนุ่มคอ ไม่ขมมากเกินไป
|
|
เบียร์สด 3 ชนิดที่มีให้เลือกดื่ม |
|
|
ถัดมาคือCopper Beer เป็นเบียร์ที่คิดค้นและพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษโดยทีม Brew Master ของไทย เป็นการนำเอาข้าว GABA Rice หรือข้าวกล้องชั้นดีอุดมไปด้วยคุณค่าอาหาร เพื่อให้ได้สีและรสชาติที่ลงตัวผสมลงไปในเบียร์ด้วย และเติม Pearl Hop กลิ่นหอมอ่อนๆ จากถิ่น Hallertaur ในNiederbayern ประเทศเยอรมัน ซึ่งเป็นแหล่งปลูกฮอบส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หมักบ่มราว 3 สัปดาห์ จนได้เบียร์สีทองแดงรสชาตินุ่มถูกคอกำลังดีไม่เหมือนใคร
ชนิดสุดท้ายคือBlack Beer เป็นเบียร์สีดำ มีกลิ่นหอมล ถูกพัฒนาปรับแต่งจากสูตรต้นตำรับของแคว้นบาวาเรียนในประเทศเยอรมัน โดยนำมอลต์ที่ผ่านการคั่วจนได้สีและมีกลิ่นหอมกาแฟอ่อนๆ ผสมผสานกับข้าวเหนียวดำพันธุ์ดีของไทยที่ให้รสหวานกลมกล่อมเหมือนคาราเมล เติมฮอปส์ชั้นดีแล้วหมักบ่มอีก 3 สัปดาห์จนได้เบียร์สีดำที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ รสชาติหวานนุ่มนวล ออกรสเข้มถูกปาก ซึ่งเบียร์ทั้งสามรูปชนิดนี้จะขายในปริมาณ0.3ลิตร(120 บาท) และ0.5ลิตร(160 บาท)
|
|
EST.33 Sampler |
|
|
และการจะดื่มเบียร์ให้ได้รสชาติเพิ่มมากยิ่งขึ้น ก็ควรที่จะมีอาหารเลิศรสให้ลิ้มรสควบคู่ไปกับการดื่มเบียร์ด้วย ซึ่งที่ร้าน EST.33 นี้ก็มีอาหารจากร้าน Minibar Royale ที่นำเสนอปรุงแต่งอาหารขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อให้เข้ากับการดื่มเบียร์ โดยรังสรรค์เมนูอาหารไทยและอาหารอินเตอร์เนชั่นแนลสไตล์โฮมเมด ที่ได้นำเอาเบียร์มาเป็นส่วนผสมในอาหารด้วย ซึ่งมีอาหารให้เลือกลิ้มรสอยู่หลายเมนู และแต่ละเมนูก็ล้วนแล้วแต่น่าลองลิ้มทั้งนั้นเลย
อย่างเมนูเด็ดที่ชวนกินก็มี EST.33 Sampler (320บาท+) ความพิเศษของเมนูนี้จะเสิร์ฟพร้อมเบียร์ 3แก้ว3รสและมีอาหาร3อย่างมีทั้ง หอมทอดที่จะใช้เบียร์เป็นส่วนผสมในแป้งเพื่อเอามาชุบกับหอมใหญ่ให้กรอบเมื่อ ทานแล้วจะรู้สึกได้กลิ่นหอมของแป้งและหอมใหญ่ออกรสหวานเข้ากันดี ถัดมาเป็นmeat ballที่ทางร้านจะใช้เนื้อไม่ติดมันเอามาปรุงรสปั้นเป็นลูกกลมๆ แล้วอบ โรยหน้าด้วยพาเมซานชีส และสุดท้ายกับปีกไก่ที่ใช้ปีกบนมาหมักกับเครื่องเทศและนำไปทอด ได้รสชาติของไก่เนื้อนุ่มออกรสหวานลิ้น
|
|
Home Smoked Salmon with Spicy Dressing |
|
|
เมนูต่อมชื่อว่าHome Smoked Salmon with Spicy Dressing (240 บาท+) เมนูถือว่าอาใจคนที่ชอบอาหารออกรสจัดจ้านแบบไทยๆ เป็นปลาแซลมอนที่ทางร้านนำมารมควันเองสไลด์มาเป็นชิ้นๆ ราดด้วยน้ำสลัดสไตล์เหมือนน้ำยำซีฟู๊ด และโรยหน้าด้วยผักร็อกเก็ต กระเทียม และเม็ดทับทิม ทันที่ที่ได้ลองลิ้มจะได้กลิ่นหอมของปลาแซลมอนรมควันเนื้อนุ่มหวาน เข้ากันได้ดีกับน้ำยำรสเปรี้ยวเผ็ดจัดจ้านถูกปากโดนใจ
|
|
Chili Dog with Fries |
|
|
จากนั้นมากินเมนูนี้ Chili Dog with Fries (190 บาท+) เป็นฮอทด๊อกที่ใช้ไส้กรอกหมูที่นำมาต้มกับเบียร์เพื่อให้เนื้อนุ่ม นำมาย่าง และราดด้วยซอสมะเขือเทศกับเนื้อบดใส่พริกนิดหน่อยเพื่อให้รสชาติออกมาเผ็ด เล็กน้อย เมนูนี้เสิร์ฟมากับมันฝรั่งทอดเอาไว้กินเคียงกัน กินฮอดด๊อกไส้กรอกหมูเนื้อแน่นนุ่มปากผสานกับรสชาติซอสมะเขือเทศและเนื้อสับ ที่ลงตัวกลมกล่อมเข้ากันดี
|
|
Beer Marinated Baby Back Ribs |
|
|
อีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาดสั่งมาชิมก็คือ Beer Marinated Baby Back Ribs (320 บาท+) เป็นซี่โครงหมูทั้งชิ้นใหญ่ๆ นำมาหมักกับเบียร์และซอสสูตรเด็ดของทางร้าน แล้วจึงนำมาย่างและราดด้วยซอสบาร์บีคิวอีกที เมนูนี้โดดเด่นตรงที่เนื้อซี่โครงหมูนั้นร่อนออกมาจากกระดูกอย่างง่ายดายและ เนื้อหมูก็นุ่มเคี้ยวง่ายบวกกับได้รสชาติของซอสบาร์บีคิวที่เข้มข้นถูกปาก จริงๆ
|
|
EST.33 Parfait |
|
|
แล้วใช่ว่าจะมีแต่อาหารคาว อาหารหวานของที่นี่ก็ชวนกินไม่แพ้กัน นั่นคือ EST.33 Parfait (120 บาท+) เป็นเจลาโต้รสวนิลา ใส่ชีสเค้ก และผลไม้อย่างลิ้นจี่ กีวี่ ส้มซันควิส ครีมและคอนเฟล็ก เมนูนี้กินแล้วจะรู้สึกสดชื่น เพราะว่าความหวานหอมนุ่มของเจลาโต้ และครีมชีสเข้ากันได้ดี ได้รสชาติที่หวานและตัดความเลี่ยนด้วยผลไม้รสเปรี้ยว
|
|
โต๊ะนั่งด้านนอกรับลม |
|
|
และนอกเหนือจากเมนูเหล่านี้แล้ว ก็ยังมีเมนูแนะนำอื่นๆ ที่ชวนลิ้มลองอีก อาทิ Baked Potato Skins with Sour Cream & Bacon (190 บาท+), German Sausages Boiled in Beer Then Grilled (350 บาท+), Legendary Bo Burger with Egg and Fries (240 บาท+), Smothered Pork Chop with Mashed Potato (240 บาท+) รวมถึงยังมีเบียร์ค็อกเทลให้ได้ลองลิ้มรสชาติแปลกใหม่ อาทิ Melon Bomb (180 บาท), Uber Bomb(180 บาท) Monaco (120 บาท) เรียกว่าหากใครกำลังมองหาสถานที่สังสรรค์กับเพื่อนฝูงตามสไตล์คอนักดื่มและนักกินด้วยกัน ร้าน “EST.33” นับว่าเป็นอีกหนึ่งร้านที่น่าชวนกันมาแฮงค์เอาท์ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น