ใน “น้ำผึ้ง” อุดมไปด้วยวิตามินบี และ วิตามินซี และยังมีสารแอนตี้ออกซิเดนท์ ซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกับที่มีอยู่ในผักใบเขียว นอกจากนี้ก็ยังมีแร่ธาตุฟอสฟอรัส แคลเซียม และเกลือแร่ ที่ร่างกายต้องการ น้ำผึ้งมีคาร์โบไฮเดรตสูง แต่มีโปรตีนและไขมันในปริมาณน้อย ซึ่งก็อยู่ในรูปของกรดอะมิโนและกรดไขมันที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที
ความหวานในน้ำผึ้งนั้นมีน้ำตาลที่ถูกย่อยมาแล้วโดยเอนไซม์ในตัวผึ้ง ให้มีขนาดของโมเลกุลเล็กลงมาแล้วหนึ่งรอบ ทำให้เมื่อเรากินเข้าไป ร่างกายของเราจึงสามารถดูดซึมได้ทันที จึงมีประโยชน์กับคนเรา โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาในการย่อยอาหาร
และที่สำคัญ “น้ำผึ้ง” ยังช่วยในการชะลอความแก่ ซึ่งถูกค้นพบโดยนักวิจัยจากประเทศนิวซีแลนด์ ที่พบว่าน้ำผึ้งนั้นมีคุณสมบัติในการต่อสู่กับความชราได้ทั้งในเรื่องของ ความจำเสื่อม และความวิตกกังวล โดยมีการทำการทดลองกับหนู 2 กลุ่ม หนูกลุ่มแรกเลี้ยงด้วยอาหารที่มีน้ำผึ้ง 10% และซูโครส 8% อีกกลุ่มหนึ่งเลี้ยงด้วยอาหารที่ไม่มีน้ำตาลเลย เป็นเวลา 12 เดือน โดยใช้แบบทดสอบที่ออกแบบขึ้นมาเพื่อวัดเรื่องความวิตกกังวลกับความจำใน เรื่องระยะทาง
ผลปรากฏว่า หนูที่เลี้ยงด้วยน้ำผึ้ง มีความวิตกกังวลน้อยกว่า และมีความจำเกี่ยวกับระยะทางดีกว่าอีกกลุ่ม จึงมีผลสรุปว่า น้ำผึ้งน่าจะมีประโยชน์ในการลดความวิตกกังวลและปรับปรุงความจำได้ในระหว่าง ที่ชรา โดยน้ำผึ้งอาจเข้าไปกระตุ้นความทรงจำ เนื่องจากมีแอนตี้ออกซิเดนท์ ซึ่งป้องกันเซลล์ในร่างกายถูกทำลาย ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรออีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น