ขายการ์ตูนออนไลน์ Youtube อ่านการ์ตูนออนไลน์ Youtube อ่านการ์ตูน Youtube มังงะออนไลน์ Youtube อ่านมังงะออนไลน์ Youtube การ์ตูนวังวนปรารถนา Youtube การ์ตูนโรแมนติก Youtube ขายการ์ตูนหมึกจีน Youtube การ์ตูนนางฟ้าซาตาน Youtube แกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก Youtube การ์ตูนแกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก Youtube เกมรักพยาบาท Youtube GOLD รักนี้สีทอง Youtube เกาะนางพญาเงือก Youtube หนุ่มสุดขั้วบวกสาวสุดขีด Youtube วังวนปรารถนา Youtube คุณหนูไฮโซโยเยรัก Youtube เจ้าหญิงซ่าส์กับนายหมาบ้า Youtube รักทั้งตัวและหัวใจ Youtube หัวใจไม่ร้างรัก Youtube เหิรฟ้าไปคว้ารัก Youtube บินไปกับหัวใจสีชมพู Youtube princessหมึกจีน Youtube ฝ่าไปให้ถึงฝัน Youtube หวานใจองค์ชายมองโกล Youtube หน้ากากนักสืบ Youtube ราศีมรณะ Youtube THE B.B.B. ลงเอยที่ความรัก Youtube เกียรติยศรัก Youtube SAINT ADAM มารยาปรารถนา Youtube หนุ่มยักษ์รักสุดฤทธิ์ Youtube รักแรกแสนรัก Youtube รอรักสาวซากุระ Youtube รักโฮ่งๆ ตกลงมั้ย Youtube หนุ่มนักนวดนิ้วทอง Youtube รักแบบนี้...กิ๊กเลย Youtube ขอแก้เผ็ดหนุ่มหลายใจ Youtube บอดี้การ์ดเจ้าปัญหา Youtube อ้อมกอดทะเลทราย Youtube การ์ตูนรอรักในฝัน Youtube การ์ตูนหัวใจร่ำหารัก Youtube อุ่นไอรักหนุ่มออฟฟิศ Youtube การ์ตูนสองสาวสองรัก Youtube การ์ตูนรอเธอบอกรัก Youtube การ์ตูนรักระแวง Youtube การ์ตูนสุดแต่ใจของเธอ Youtube การ์ตูนหนามชีวิต Youtube ยอดรักเพชรในดวงใจ Youtube การ์ตูนวังวนในหัวใจ Youtube การ์ตูนรักแรกฝังใจ Youtube การ์ตูนกับดักหัวใจ Youtube การ์ตูนคุณชายที่รัก Youtube อ้อมกอดดาวเคล้าเกลียวคลื่น Youtube การ์ตูนเจ้าสาวเงินตรา Youtube การ์ตูนเพลงรักสองเรา Youtube การ์ตูนมนต์รักลมหนาว Youtube การ์ตูนโอมเพี้ยงเสี่ยงรัก Youtube ครูจอมซ่าส์หรือนายขาโจ๋ Youtube เล่ห์รักปักหัวใจ Youtube การ์ตูนคู่รักนิรันดร Youtube การ์ตูนชะตารัก Youtube แฝดหนุ่มมะรุมมะตุ้มรัก Youtube รูมินเทพบุตรซาตาน Youtube รักเทวดาท่าจะวุ่น Youtube รวมเรื่องสั้นMiwa Sakai Youtube Hot Love หมึกจีน Youtube การ์ตูนผีกุกกัก Youtube คุณหนูกับทาสหนุ่ม Youtube การ์ตูนเธอคือนางเอก Youtube หนุ่มเซ่อเจอสาวแซ่บ Youtube Extra Romance หมึกจีน Youtube เว็บขายการ์ตูนออนไลน์ Youtube

พบกับหลากหลายเมนูพิเศษ ที่ รร. โนโวเทลฯ สยามสแควร์

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 มกราคม 2555 15:38 น.
       ในช่วงบรรยากาศต้นปีแบบนี้ เป็นช่วงของการต้อนรับสิ่งใหม่ๆ  หากใครกำลังมองหาร้านอาหารที่จะฉลองในช่วงต้นปีแบบนี้ เรามีร้านมาแนะนำ เริ่มต้นความพิเศษต้นปีที่ ห้องอาหารจีน ลก หว่า ฮิน โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพฯ สยามสแคว์ ด้วย เมนูอาหารจีนรสดั่งเดิม พร้อมเมนูแสนอร่อยจากเชฟชาวฮ่องกง เช่น เมนูเป๋าฮื้อตุ๋นสไลด์ หอยนางรมทานคู่สาหร่าย มื้อค่ำ 4 ท่านราคา 6500 บาท 10ท่าน 13000 บาท++ ราคานี้รสมกับราคาไวน์ 1 ขวด และรับอั่งเปาลุ้นรางวัลกลับบ้าน โทร. 0-2209-8888 ต่อ ลก หว่า ฮิน
       ความพิเศษถัดมาที่ ห้องอาหารริเวอร์บาร์จ โรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ เริ่ม ต้นศักราชใหม่ ด้วย บุพเฟ่ต์นานาชนิดระดับพรีเมี่ยม ซึ่งทางเชฟใหญ่ของโรงแรมฯภูมิใจเสนอ ล็อบสเตอร์และกุ้งสดจากทะเล นอกจากนั้นยังมี ตับห่าน เนื้อวากิว และ เนื้อแกะ เพื่อเพิ่มความหลากหลาย ท่ามกลางบรรยากาศแห่งสายน้ำเจ้าพระยายามค่ำคืน โทร. 0-2307-8888 ต่อ 1923
       และที่ ห้องอาหารบุพเฟ่ต์ลอยฟ้า โรงแรมใบหยก สวีท คัด สรรค์เมนูที่ได้รับความนิยมในแถบยุโรปและเอเชีย กับ “SWAFOOD EMPANADAS” พายทะเลกรอบชั้นเลิศ ที่ใช้ปลาแซลมอน หอยลาย กุ้งทะเล คลุกด้วยเครื่องเทศทำเป็นไส้ ทอดจนหอมกรอบ เพิ่มความจุใจอีกชั้นด้วยหมี่กรอบ พร้อม Salsa sauce เสริฟให้ได้ลิ้มลอง โทร. 0-2255-7755
       ลองแวะมาที่ ห้องอาหารนานานชาติ โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ เชิญชวนผู้รักก๋วยเตี๋ยวมาลองลิ้มชิมรสกับบุฟเฟต์ก๋วยเตี๋ยวนานาชนิด พร้อมเมนูน้ำซุปแสนอร่อยหลากหลายสไตล์ เช่น ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก เป็นต้น ในราคาท่านละ 480++ บาท โทร. 0-2215-5010 หรือ 0-2215-5000 ต่อ 8200
       สุดท้ายกับความพิเศษที่ เดอะมิวเซียม เซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทและวิลลา หัวหิน เชิญ ลิ้มลอง ของขนมปังนุ่มๆหอมกรุนจากเตา และขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสหลากหลายชนิด พร้อมของว่างนานาชนิด อาทิ ชา กาแฟ ชอกโกแลตและอีกมากมาย พร้อมเปิดบริการให้ทุกท่านทุกวัน เวลา 10.00-19.00 น. โทร.0-2351-2021-38

เต็มอิ่มกับบุฟเฟต์ ที่ “คาเฟ เดอ นีมส์”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 ธันวาคม 2549 15:30 น.
บรรยากาศภายในห้องคาเฟ เดอ นีมส์ โปร่งโล่งนั่งสบาย
       เดี๋ยวนี้ในหมู่นักกินทั้งหลาย ต่างพิสมัยอาหารประเภทบุฟเฟต์กันเป็นจำนวนมาก ด้วยเพราะความที่ว่าบุฟเฟต์นั้นมีความหลากหลายในเรื่องเมนูอาหารที่มีให้ เลือกกินมากมาย แถมยังอิ่มได้แบบไม่อั้น ในราคาที่จำกัดไว้แล้ว
      
       ฉะนั้นในมื้อนี้เพื่อเป็นการเอาใจบรรดาคนรักบุฟเฟต์ “ผู้จัดการตระเวนกิน” จึงขอพาไปตระเวนกินบุฟเฟต์กันให้สำราญท้องที่ห้องอาหาร “คาเฟ เดอ นีมส์” ซึ่งตั้งอยู่ที่โรงแรมแกรนด์ สุขุมวิท โซฟิเทล (สุขุมวิท 6)
ซุ้มสารพัดยำต่างๆ
       สำหรับบุฟเฟต์ที่ห้องอาหารคาเฟ เดอ นีมส์ เป็นบุฟเฟต์สไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเป็นอาหารประเภทออกแนวเพื่อสุขภาพสักหน่อย คือส่วนประกอบอาหารส่วนใหญ่จะค่อนข้างมีไขมันต่ำ เน้นพวกพืชผัก ธัญพืช และซีฟู้ด รวมไปถึงยังมีอาหารนานาชาติอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งอาหารไทย อาหารญี่ปุ่น อาหารยุโรป และมีแบบเป็นอะลาคาร์ทให้เลือกสั่งด้วยอีกต่างหาก
อาหารทะเลสดๆ
       เอาเป็นว่ามาดูกันดีกว่าบุฟเฟต์ของที่นี่มีอาหารอะไรน่ากินบ้าง โดย “ผู้จัดการตระเวนกิน” ขอเริ่มจากซุ้มเพื่อสุขภาพอย่าง “ซุ้มสลัดบาร์” กันก่อน ซึ่งสลัดบาร์ของที่นี่มีผักสดๆ ให้เลือกตักมากมาย แถมยังมีน้ำสลัดหลายหลากชนิดให้เลือกตักตามใจชอบ ชนิดที่ว่าเลือกตักไม่ถูกเลยทีเดียว และที่สำคัญ มีเชฟคอยแนะนำ และบริการคลุกเคล้าสลัดให้กินพร้อมเสิร์ฟเลยทีเดียว
      
       จากซุ้มสลัดบาร์ ถ้าใครที่ชื่นชอบความแซบของสารพัดเมนูยำๆ แล้วล่ะก็ต้องไม่พลาดซุ้มนี้ “ซุ้มยำ” ซึ่งมีสารพัดเมนูยำให้เลือกกินตามใจปาก ซึ่งเราสามารถเลือกตักทำยำได้ด้วยตัวเองเลย ไม่ว่าจะเป็นยำวุ้นเส้น ยำรวมมิตรทะเล ยำแหนม ยำเห็ดหูหนูขาว และอีกสารพัดยำตามแต่เราจะเลือกใส่ส่วนผสมยำเอง
      
       และหลังจากอิ่มแซบกับเมนูซุ้มยำแล้ว เราเดินต่อตรงมายัง "ซุ้มอาหารซีฟู้ด" ของโปรด สำหรับซุ้มนี้ต้องถูกใจบรรดาคอซีฟู้ดทั้งหลาย เพราะมีอาหารทะเลสดๆ นานาชนิดให้เลือกกินมากมาย มีทั้งกุ้งตัวโตๆ หอยแมลงภู่ตัวใหญ่ ปูก้ามโต หอยนางรมสดๆ พร้อมกับมีน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดให้ตักมาจิ้มกินคู่กับอาหารทะเลที่สดหวาน
เมนูสเต็กเลิศรส
       ครั้นพอจัดการกับซีฟู้ดที่ตักมาจนหมดจาน เราก็เดินไปที่ "ซุ้มอาหารญี่ปุ่น" กันต่อ ซึ่งถ้าใครพิสมัยอาหารญี่ปุ่นเป็นต้องโดนใจปาก เพราะมีสารพัดเมนูอาหารญี่ปุ่นให้เลือกตัก มีทั้งซูชิสารพัดหน้า อาทิ ข้าวปั้นหน้าปลาไหล ข้าวปั้นหน้าปูอัด ข้าวปั้นหน้าปลาแซลมอน ข้าวปั้นสาหร่ายไส้ปูอัด และก็มีปลาดิบมากมาย อย่างปลาแซลมอน ปลาโอ ปลาหมึก
      
       ส่วนถ้าใครอยากลิ้มลองอาหารชาติอื่นๆ ก็ยังมี “ซุ้มอาหารไทย” ที่จะมีเมนูอาหารไทยหลายอย่างหมุนสลับสับเปลี่ยนเมนูให้เลือกลองลิ้มตามความชอบใจ และก็ยังมี “ซุ้มอาหารสไตล์ยุโรป” อย่างอาหารฝรั่งเศส อาหารอิตาเลียน ซึ่งที่”ผู้จัดการตระเวนกิน” ชื่นชอบมากเป็นพิเศษก็เห็นจะเป็นพวกสเต็กต่างๆ ที่พอสั่งเชฟก็จะปรุงให้ร้อนๆ แบบจานต่อจานทันทีตรงครัวเปิดที่ตั้งอยู่ในห้องอาหาร เพื่อคงรสชาติความสดของอาหารไว้
      
       ปิดท้ายกันที่ “ซุ้มขนมหวาน” ที่มีทั้งขนมหวานแบบไทย และแบบฝรั่ง รวมถึงยังมีเค้กหน้าตาหน้ากินมากมาย ผลไม้นานาชนิด และก็มีไอศกรีมที่มีให้เลือกกินหลายรสชาติ พร้อมด้วยท็อปปิ้งสารพัดอย่าง สำหรับบุฟเฟต์อิ่มไม่อั้นนี้ สนนราคาบุฟเฟต์มื้อกลางวัน (เวลา 12.00-15.00 น.) ราคา 450 บาท++/คน และบุฟเฟต์มื้อค่ำ (เวลา 18.30-22.00 น.) ราคา 650 บาท++/คน
       เรียกว่าหากแฟนานุแฟนมิตรรักนักกินท่านใดที่ชื่นชอบการกินอาหารแบบบุฟเฟต์ และก็อยากอิ่มแบบไม่อั้นอย่างมื้อนี้ของ “ผู้จัดการตระเวนกิน” แล้วล่ะก็ ต้องลองแวะมาสัมผัสกับบุฟเฟต์สไตล์เมดิเตอร์เรเนียนที่ห้องอาหาร “คาเฟ เดอ นีมส์” แห่งนี้กันดูสักครั้ง เพราะไม่แน่อาจจะติดใจในความอิ่มจุใจจนต้องพากันมาบ่อยๆ ก็เป็นได้
      
       
*    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *
       

      
       
พิเศษ ในวันที่ 24 ธ.ค. นี้ ทางห้องอาหารมีซุ้มเมนูคริสต์มาส ที่มาพร้อมอาหารคริสต์มาสหลากหลายเมนูมาบริการเพิ่มเติมด้วย ราคาบุฟเฟต์วันคริสต์มาสนั้น ราคา 1,188 บาท++/ท่าน พร้อมกับรับไวน์ฟรี 1 แก้ว

ลิ้มรสปูขน หนึ่งปีมีหน ที่ "ภัตตาคารเชียงการีลา"

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 พฤศจิกายน 2549 12:16 น.
บรรยากาศโต๊ะนั่งกินอาหารภายในภัตตาคารเชียงการีลา
       "ปูขน"จัดว่าเป็นปูน้ำจืดชนิดหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ตามทะเลสาบในประเทศจีน เจริญเติบโตอยู่ในสภาพอากาศหนาว และน้ำที่เย็นจัด ปูขนมีลักษณะพิเศษตรงที่จะมีขนตรงบริเวณก้ามปู และขาปู ยิ่งถ้าตรงบริเวณขาปูมีขนออกสีเหลืองทองอ่อน ถือว่าเป็นปูขนที่สมบูรณ์มากๆ ซึ่งในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคมนี้ ถือว่าเป็นช่วงที่ปูขนมีความอุดมสมบูรณ์ และเหมาะแก่การลิ้มรสเป็นที่สุด
      
       ที่ "ภัตตาคารจีนเชียงกรีลา" ตรงเยาวราช ในทุกๆ ปีจะจัด"เทศกาลปูขน" ขึ้นเพื่อเอาใจคอกินปูขน ในปีนี้จัดตั้งแต่วันนี้ไปถึงประมาณปลายเดือนธันวาคม ซึ่ง"ผู้จัดการตระเวนกิน" เองในปีนี้ก็ได้มีโอกาสมาลองลิ้มรสชาติปูขนที่นี่กับเขาด้วย
ปูขนนึ่ง เสิร์ฟพร้อมน้ำขิงร้อนๆ
       สำหรับปูขนของที่นี่ เขาสั่งปูขนคัดขนาดส่งตรงมาจากเซี่ยงไฮ้ประเทศจีน มาแบบยังเป็นๆสดๆ และนิยมนำปูขนมาทำเป็นเมนูปูขนนึ่งเพียงอย่างเดียว เพราะนำไปทำเมนูอย่างอื่นไม่ได้รสชาติปูขนที่ดี สนนราคาปูขนหนึ่งตัว (ตัวไม่ใหญ่มากนัก) ตกตัวละ 250 บาท
      
       การทำเมนูปูขนนึ่งของที่นี่มีกรรมวิธีการนึ่งปูที่พิเศษเฉพาะไม่ เหมือนที่อื่น ตรงที่จะนำปูขนสดๆ มาล้างทำความสะอาด จากนั้นนำไปนึ่งพร้อมกับใบชาจีน เพื่อเป็นการช่วยดับกลิ่นคาวของปู นึ่งประมาณ 15-20 นาทีจนปูสุกกระดองปูกลายเป็นสีส้มๆ ชวนกิน
      
       ปูขนของที่นี่เสิร์ฟมาแบบให้กินง่ายๆ ทางร้านแกะปูมาให้เสร็จสรรพ ก้ามเป็นก้าม และแคะเนื้อปูมาเป็นส่วนๆ แล้วนำมาเรียงเป็นตัวปูใหม่อย่างสวยงาม การกินปูขนส่วนที่อร่อยที่สุดต้องกินตรงมันปู ยิ่งปูตัวผู้มีมันเยอะ มันเยิ้มๆ หอมๆ มัน สุดยอดขอบอก ส่วนไข่ปูก็มันๆ ปากดี และเนื้อปูถึงจะมีไม่มาก แต่ก็รสชาติดีจิ้มกินกับน้ำจิ้มจิ๊กโฉ่วใส่ขิง ตบท้ายการกินปูขน ทางร้านจะเสิร์ฟน้ำขิงร้อนๆ มาให้กินกลั้วคอ เพราะเชื่อว่าปูขนมีฤทธิ์เย็น ต้องแก้ด้วยฤทธิ์ร้อนจากขิง
เนื้อปลาเก๋ามังกรยัดไส้กุ้งเจี๋ยนน้ำมันหอย
       นอกจากเมนูปูขนแล้ว หากมากินอาหารตามปกติก็มีเมนูจีนชวนกินมากมาย อย่าง เนื้อปลาเก๋ามังกรยัดไส้กุ้งเจี๋ยนน้ำมันหอย (ชิ้นละ 80 บาท) เป็นเนื้อกุ้งสับปรุงรส ห่อด้วยเนื้อปลาเก๋าและชุบแป้งทอด แล้วราดด้วยน้ำมันหอยปรุงรส ลิ้มรสปลาเก๋าเนื้อแน่น เคี้ยวเด้งกรอบทั้งเนื้อปลาและเนื้อกุ้ง ออกรสเค็มๆ น้ำมันหอย และมีบล็อกโคลี่ต้มกินตัดความเลี่ยน
      
       หอยเชลล์ออสเตรเลียผัดเต้าซี่ (ตัวละ 200 บาท) หอยเชลล์ออสเตรเลียตัวโตลวกพอสะดุ้ง ผัดกับเครื่องเต้าซี่ปรุงรส ราดด้วยต้นหอม พริกสด หอมใหญ่ และมีคะน้าไต้หวันลวกเสิร์ฟมาด้วย กินเนื้อหอยเชลล์เนื้อนุ่ม เด้งเคี้ยวหนึบ หอมเครื่องผัดเต้าซี่
หอยเชลล์ออสเตรเลียผัดเต้าซี่
       เป๋าฮื้อขาห่าน (ชุดละ 350 บาท) เป๋าฮื้อตัวโต กับขาห่านตุ๋นเครื่องยาจีนจนเปื่อยนุ่ม ใส่ผักกาดแก้ว และมีน้ำแดงที่ได้มาจากซุปหูฉลามเคี่ยวกับไก่แห้งเข้มข้น ลิ้มรสเป๋าฮื้อเคี้ยวกรุบ ขาห่านเปื่อยยุ่ยได้ที่ น้ำแดงออกหวานๆ เค็มๆ หอมกลิ่นสมุนไพรจีนอ่อนๆ
เป๋าฮื้อขาห่าน
       นอกจากนี้ยังมีติ่มซำ (เข่งละ 35บาท ขึ้นไป) มีกว่า 80 ชนิด ให้เลือกกิน หมุนเวียนสลับสับเปลี่ยนกันไปกว่า 45 ชนิดต่อวัน อย่างขนมจีบ ฮะเก๋าหงส์ มี บะหมี่หยกห่อกุ้ง ฮะเก๋าหอยเชลล์ และเมนูอื่นๆ ที่ชวนกินอีก อาทิ หมูหันฮ่องกง (ตัวละ 950 บาท) พระกระโดดกำแพง (โถละ 800 บาท) หอยเชลล์ผัดซอสเอ็กซ์โอ (500 บาท, 950 บาท, 1400 บาท) ปลาเก๋ามังกรหม้อไฟ (ขายตามน้ำหนัก)
      
       เห็นทีว่าหากใครเป็นคอปูขนานแท้ และไม่อยากพลาดการได้ลิ้มรสชาติ “ปูขน” ที่นานทีปีครั้งจะมีมาให้กิน ก็ต้องหาต้องรีบหาโอกาสไปลองลิ้มกันให้จงได้
      
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
     

อิ่มเจ อิ่มบุญ ที่ “ไฮ เทียน โล”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 ตุลาคม 2549 13:25 น. 
บรรยากาศชวนนั่งสบายๆ ภายในห้องอาหารจีนไฮ เทียน โล
       แล้ว"เทศกาลกินเจ"ก็เวียนมาถึงอีกครั้งหนึ่ง(ปีนี้ ตรงกับวันที่ 21-30 ต.ค.) ซึ่งเป็นเทศกาลที่ผู้คนจะได้ร่วมทำบุญ ถือศีล กินเจ โดยการละเว้นการกินเนื้อสัตว์ทั้งหลาย แล้วหันมาบริโภคพวกผัก แป้ง ถั่วและธัญญาหารอื่นๆ แทน
ผัดโหงวก๊วย
       "ผู้จัดการตระเวนกิน" เองก็ใช้ช่วงเวลานี้ร่วมกระแสกินเจกับเขาด้วย โดยมื้อนี้เราเลือกไปกินอาหารรับเทศกาลเจที่จะมาถึง ที่ ห้องอาหารจีน"ไฮ เทียน โล" โรงแรมแพน แปซิฟิค กรุงเทพฯ โดยเชฟแลม ก๊ก เวง ได้รังสรรค์เมนูอาหารเจปรุงแต่งสไตล์จีนที่หลากหลายกว่า 20 เมนู ให้ลิ้มรสกันในช่วงกินเจนี้
เชฟแลม ก๊กเวง กับเมนูเห็ดเป๋าฮื้อบร็อคโคลี่น้ำแดง
       สำหรับเมนูเจจานเด่นที่ชวนกินนั้นก็มีหลายรายการ อย่างที่เราได้ลองลิ้มแล้วนำมาแนะนำกันก็มีอยู่หลายเมนู ขอเริ่มจากเมนูออร์เดิร์ฟเรียกน้ำย่อยกันด้วย ผัดโหงวก๊วย (250 บาท++) เป็นการนำเอาผักผลไม้หลากชนิด ทั้งแครรอท แปะก๊วย แห้วสด พุทราจีน เกาลัด บร็อคโคลี่ และแฮมเจที่ทางห้องอาหารคิดค้นทำขึ้นมาเองจากเห็ดต่างๆ ผสมกับแป้ง โดยนำเครื่องทุกอย่างมาผัดปรุงรสคุกเคล้ากัน และมีใบคะน้าทอดกรอบใส่มาด้วย เมนูนี้ออกสไตล์จีนแต้จิ๋ว กินแล้วได้โปรตีนสูง รสชาติไม่ถึงกับจืดมากเสียทีเดียว ออกหวานนิดๆ
      
       ตามมาด้วย เห็ดเป๋าฮื้อบร็อคโคลี่น้ำแดง (220 บาท++) เมนูนี้เด็ดตรงที่เห็ดเป๋าฮื้อที่ผ่านการต้มจนสุกและปรุงรสชาติแล้วนำมาราด ด้วยน้ำแดงสูตรเด็ดที่ได้น้ำราดมาจากน้ำต้มผักต่างๆ ปรุงรส ใส่แป้งมันพอหนืดราดบนเห็ดและมีบร็อคโคลี่กรอบๆ ใส่มาด้วย ลิ้มรสชาติเห็ดเนื้อนุ่มเคี้ยวกรึบ น้ำแดงรสนุ่มลิ้นกลมกล่อม
      
       ต่อด้วยเมนูของทอดเป็น เผือกทอดมังสวิรัติ (160 บาท++) ที่ใช้เผือกนึ่งจนสุกแล้วนำไปบดแล้วห่อด้วยไส้ข้างในที่ใส่เห็ดหอม แฮมเจ หมี่กึง เม็ดถั่วลันเตา ข้าวโพด บร็อคโคลี่หั่นเล็กๆ ผัดปรุงรสชาติ ห่อเป็นก้อนกลมๆ แล้วนำไปทอดในน้ำมันร้อนๆ จนเหลืองกรอบ กินตอนร้อนๆ เผือกกรอบนอกเนื้อในนุ่มนิ่ม ได้รสชาติไส้ข้างในโดยไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มเลย
เผือกทอดมังสวิรัติ
       ปิดท้ายที่เมนู เต้าหู้หม่าผ่อ (220 บาท++) หรือเต้าหู้ทรงเครื่องสไตล์เสฉวน ที่ถ้าใครชอบกินเต้าหู้ต้องสั่งมากิน เพราะเต้าหู้ขาวของที่นี่ทำเองด้วยสูตรลับเฉพาะ จนได้เต้าหู้ขาวหอมๆ เนื้อนุ่มเด้ง นำมาผัดกับซอสพริกเสฉวนและใส่เครื่องอย่างพวกแฮมเจ หมี่กึง เห็ดหอม เห็ดเข็มทอง พริกเขียว พริกแดง ผัดรวมกันเสิร์ฟมาร้อนๆ ชิมเต้าหู้เนื้อนุ่มนิ่ม ออกรสชาติเผ็ดนิดๆ จากซอสพริกเสฉวน
เต้าหู้หม่าผ่อ
       นอกจากเมนูจานเด็ดเหล่านี้แล้วก็มีมีเมนูเจที่ชวนกินอื่นๆ อีก อาทิ เต้าหู้ราดผักเหมย (220 บาท++) ซุปเสฉวนมังสวิรัติ (200 บาท++) จับฉ่ายหม้อดิน ไฮ เทียน โล (240 บาท++) ฟองเต้าหู้เห็ดหอมน้ำแดง (220 บาท++) รวมถึงมีติ่มซำเจ และของหวานเจอย่าง แปะก๊วยแห้วบดร้อน (90 บาท++) สี่แซ่ร้อน (120 บาท++) ด้วย
      
       หากว่าใครอยากเข้าร่วม "เทศกาลกินเจ" ก็ลองแวะไปลิ้มรสอาหารเจ แบบได้ทั้งอิ่มท้อง ละอิ่มบุญกันได้ที่ ห้องอาหารจีน"ไฮ เทียน โล" ซึ่งจะจัดเทศกาลกินเจตั้งแต่วันที่ 20-31 ต.ค. นี้
      
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
       

     

เมนูไร้เนื้อสัตว์นานาชาติ... รสจัด-ไม่เลี่ยน

credit kapook.com    Lisa


เมนูไร้เนื้อ


อิ่มท้องสบายกายกับเมนูมังสวิรัติรสจัดและไม่เลี่ยน (Lisa)

          สบายตัวกับเมนูไร้เน้อสัตว์เพื่อสุขภาพ อาหารมังสวิรัติทางเลือกที่อร่อยได้โดยไม่ต้องพึ่งเนื้อสัตว์ และการรับประทานผักผลไม้ที่มีกากใยให้มากขึ้นจะช่วยปรับระบบไหลเวียนโลหิต ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ร่างกายสดใสผิวพรรณก็ผ่องงาม เราเลือกเมนูไม่น่าเบื่อที่มีครบทุกรสสำหรับทุกคน เพื่อให้สนุกกับการรับประทาน พร้อมเครื่องดื่มที่เน้นสุขภาพซึ่งทำเองง่าย ๆ ได้ที่บ้าน

ราเมนซุปโชยุ


เมนูไร้เนื้อ

          เมนูรสชาติเบา ๆ เลือกใช้โชยุชั้นดี น้ำซุปจะหอม รสจะกลมกล่อมไม่เค็มเกินไป

ส่วนผสมสำหรับ 1-2 ที่

          เส้นราเมนลวกสุก 150 กรัม ถั่วลันเตาลวก 100 กรัม แครอตสไลซ์บางลวกสุก 1 หัว เต้าหู้ชิ้นพอดีคำ 30 กรัม น้ำซุปผัก 2-3 ถ้วย โชยุ 2-4 ช้อนโต๊ะ น้ำมันงา ½ ช้อนชา น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา ต้นหอมซอย 3 ช้อนโต๊ะ พริกไทยเล็กน้อย ผักอื่น ๆ ตามชอบ

วิธีทำ

          1. ต้มน้ำซุปให้เดือด ปรุงรสด้วยโชยุ น้ำตาล น้ำมันงา เกลือ และพริกไทยตามชอบ ใส่เต้าหู้ แล้วรอให้เดือด ชิมรสตามชอบ
          2. จัดเส้นราเมนพร้อมผักต่าง ๆ ใส่ถ้วยแล้วเติมน้ำซุป โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย พร้อมเสิร์ฟ

          เวลาในการปรุง 15 นาที

          ส่วนผสมราคาประมาณ 160 บาท


ข้าวผัดลูกเกด


เมนูไร้เนื้อ

          สูตรนี้รสชาติคล้ายกับข้าวผัดอเมริกัน เพียงแต่ใช้ผงขมิ้นมาแทนซอสมะเขือเทศ

ส่วนผสมสำหรับ 1-2 ที่

          ข้าวหุงสุก 1 ถ้วย เนยเค็ม 2 ช้อนโต๊ะ กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ หัวหอมใหญ่ 1 หัว วิปปิ้งครีม 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ ผงขมิ้น 1 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ ลูกเกด 2-3 ช้อนโต๊ะ เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ 2 ช้อนโต๊ะ เกลือและพริกไทยตามชอบ

วิธีทำ

          1. ตั้งกระทะผัดกระเทียมกับเนยพอหอมใส่ข้าวลงผัดพร้อมหัวหอมใหญ่สับ แล้วเติมผงขมิ้น ตามด้วยลูกเกดและเมล็ดมะม่วงหิมพานต์
          2. ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำตาล เกลือ และพริกไทย ชิมรสตามชอบ จัดใส่จานท็อปปิ้งด้วยวิปปิ้งครีม พร้อมเสิร์ฟ

          เวลาในการปรุง 15 นาที

          ส่วนผสมราคาประมาณ 170 บาท


ยำวุ้นเส้น


เมนูไร้เนื้อ

          เติมรสเค็มในน้ำยำด้วยเกลือก็จะได้รสที่กลมกล่อมขึ้น ส่วนกระเทียมเจียว จะช่วยให้อร่อยขึ้น

ส่วนผสมสำหรับ 1-2 ที่

          วุ้นเส้นสด 100 กรัม แตงกวาสับหยาบ 1-2 ลูก ถั่วงอกลวกพอสุก 30 กรัม มะเขือเทศสีดาหั่นซีก 6-7 ผล ซีอิ๊วขาว 2-3 ช้อนโต๊ะ หัวหอมใหญ่หั่น 1 หัว รากผักชี และกระเทียมตำ 1 ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนูตำหยาบ 4-5 เม็ด ผักชีซอย 1 ต้น กระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

          1. ปรุงน้ำยำด้วยการเคี่ยวน้ำมะนาว ซีอิ๊วขาว น้ำมะขามเปียก และน้ำตาลทรายให้เข้ากัน ใส่รากผักชีและกระเทียมตำ ตามด้วยพริกขี้หนู ผักชีซอย และกระเทียมเจียว ชิมรส

          2. จากนั้น นำไปคลุกเคล้ากับวุ้นเส้น หัวหอมใหญ่ มะเขือเทศ แตงกวา และถั่วงอก ชิมรสตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ

          เวลาในการปรุง 15 นาที

          ส่วนผสมราคาประมาณ 130 บาท


สลัดแตงไข่ยางมะตูม


เมนูไร้เนื้อ

          สูตรนี้สไตล์ญี่ปุ่น หอมกลิ่นน้ำมันงา ครบรสหวาน เปรี้ยว และเค็มจากซอสมิโซะ

ส่วนผสมสำหรับ 1-2 ที่

          แตงญี่ปุ่นขูดเส้น 1 ลูก ไข่ต้มยางมะตูม 1-2 ฟอง น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันงา 1 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1-2 ช้อนชา ซอสมิโซะ 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ ½ ช้อนชา สาหร่ายแบบผง/เส้นสำหรับโรยแต่งหน้า 1-2 ช้อนโต๊ะ ชีสพาร์มีซานขูดตามชอบ

วิธีทำ

          1. ผสมน้ำส้มสายชู น้ำมันงา เกลือ น้ำตาล และซอสมิโซะเข้าด้วยกัน ชิมรสตามชอบ จากนั้น นำไปเคล้ากับแตงญี่ปุ่นที่ขูดเป็นเส้น
          2. จัดใส่จานแล้วโรยหน้าด้วยชีสพาร์มีซาน และสาหร่ายแห้งแบบที่เป็นผงหรือเส้นก็ได้ เสิร์ฟพร้อมไข่ต้มยางมะตูม

          เวลาในการปรุง 10 นาที

          ส่วนผสมราคาประมาณ 130 บาท

อัลมอนด์มิลค์


เมนูไร้เนื้อ

          เครื่องดื่มให้พลังงาน หอมหวาน ปรุงดื่มเองง่ายๆ ได้ที่บ้าน

ส่วนผสมสำหรับ 2-3 ที่

          เมล็ดอัลมอนด์ 300 กรัม น้ำผึ้ง ½ ถ้วย ผงซินนามอนตามชอบ น้ำ 1 ถ้วย

วิธีทำ

          1. แช่เมล็ดอัลมอนด์ในน้ำ 4 ชั่วโมง จากนั้น นำไปปั่นพร้อมน้ำจนละเอียด คั้นเอาแต่น้ำอัลมอนด์ไปแช่เย็น ส่วนเศษเนื้ออัลมอนด์ นำไปคั่วเก็บไว้ปรุงอาหารได้

          2. เติมน้ำผึ้งและผงชินนามอนตามชอบ แล้วคนให้เข้ากัน ชิมรส หรือจะนำไปปั่นพร้อมน้ำแข็งให้เป็นเกล็ด พร้อมเสิร์ฟ

          เวลาในการปรุง 10 นาที

          ส่วนผสมราคาประมาณ 210 บาท


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก