ครัวบ้านพิม
เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ครัวบ้านพิม
หลายคนอาจจะเคยหยิบผลไม้หลากหลายชนิดมาประกอบเป็นอาหารคาวทานกัน (อ๊ะ อ๊ะ อย่าบอกนะว่าไม่เคยทาน อย่างน้อยก็ต้องเคยชิมส้มตำแหละน่า...จริงไหม) แต่เชื่อได้เลยว่า น้อยคนนักที่จะเคยหยิบเอาราชินีแห่งผลไม้อย่าง "มังคุด" มาทำอาหารคาวทาน แถมบางคนยังทำหน้าสงสัยด้วยว่า "มังคุด ทำอาหารคาวทานได้ด้วยหรือ?"
...ทำได้แน่นอนค่ะ เพราะวันนี้ คุณพิม แห่ง ครัวบ้านพิม จะขอแนะนำเมนูมังคุดเด็ด ๆ อย่าง "ยำมังคุดกุ้งสด" อุ้ย...แค่ฟังชื่อก็เปรี้ยวปากแล้วใช่ไหมล่ะ ยิ่งเห็นรูปด้วยแล้วรับรองว่าต้องร้องซี้ด...แหมก็น่าทานซะขนาดนี้ จะไม่รีบกลับไปเตรียมเครื่องปรุงเข้าครัวได้อย่างไรไหว ว่าแล้วก็ไปดูสูตรเด็ด "ยำมังคุดกุ้งสด" ของครัวบ้านพิมกันเลย
วันนี้พิมขอนำเสนอเมนู "ยำมังคุด" ค่ะ ... หลายคนฟังชื่อแล้วอาจจะงง ๆ มันมีด้วยเหรอ ยำมังคุดเนี่ย ... พิมก็ต้องขอบอกว่ามีค่ะ แถมอร่อยมากด้วยนะจะบอกให้ ว่าแล้ววันนี้ถือฤกษ์ดีที่พิมทำยำมังคุดกินอีกครั้ง พิมก็เลยถือโอกาสนี้ถ่ายภาพวิธีการทำมาฝากเพื่อน ๆ ด้วย... เผื่อว่าใครสนใจจะได้ลองเอาไปหัดทำกันนะคะ ^__^
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
- มังคุดสุกแต่ยังห่าม 10 ลูก หรือเนื้อมังคุด 1 ถ้วยตวง
- หมูสับ 100 กรัม
- กุ้งสด 5 ตัว ...... (พิมใช้ขนาด 4-5 ตัว 1 ขีด ๆ ละ 18 บาท)
- พริกขี้หนูสวนสีเขียวแดง 15 เม็ด
- หอมแดง 4 หัว
- มะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาดี ๆ ไม่คาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 - 1/2 ช้อนโต๊ะ
- สะระแหน่ 4-5 กิ่ง หรือเด็ดใบให้ได้ประมาณ 1/2 ถ้วยตวง
:: วิธีทำ ::
เริ่มต้นก็ให้ทำการจัดการกับผักต่าง ๆ เตรียมไว้ก่อนนะคะ .... อันดับแรก "พริกขี้หนูสวน" โดยส่วนใหญ่เวลายำ คนส่วนใหญ่มักจะชอบใช้พริกโขลก แต่พิมชอบการหั่นแบบนี้มากกว่าอ่ะค่ะ เพราะพิมว่ามันสวย แล้วก็สะดวกเวลาไม่กิน ก็หยิบออกได้น่ะค่ะ.... ซึ่งสำหรับปริมาณพริกที่ใช้เนี่ย พิมใช้ประมาณ 15 เม็ด พิมว่าราว ๆ นี้ จะเผ็ดกำลังดี แต่ถ้าใครไม่ทานเผ็ด หรือชอบเผ็ดมากกว่านี้ ก็ลดเพิ่มได้ตามชอบค่ะ
ส่วนหอมแดงก็เลือกใช้หอมแดงไทยหัวกลาง ๆ ปอกเปลือก ล้างให้สะอาด แล้วซอยไว้บาง ๆ นะคะ
สำหรับมะนาว พิมเลือกใช้มะนาวที่ผิวยังพอเขียวอยู่ เพราะจะให้กลิ่นที่หอมกว่ามะนาวที่มีผิวกลายเป็นสีเหลืองแล้ว ... ก็ใช้ประมาณ 2 ลูก บีบน้ำมะนาวไว้ให้ได้ราว 3 ช้อนโต๊ะนะคะ และและสะระแหน่ (ไม่มีรูป) หลังจากล้างให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ ก็เด็ดไว้เป็นใบ ๆ ค่ะ
ส่วนมังคุด ..... ย้ำว่าเลือกใช้มังคุดที่สุกแล้ว แต่ยังห่ามอยู่ (เปลือกสีม่วงเข้ม) จะดีกว่าใช้มังคุดสุกที่เปลือกสีดำ เพราะรสชาติจะหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย และเนื้อไม่นิ่มมากเกินไปอ่ะค่ะ แต่ถ้าใครชอบมังคุดที่เนื้อนิ่ม ๆ หวานมากหน่อย จะใช้มังคุดเปลือกสีดำก็ไม่ผิดกติกาค่ะ ....
สำหรับ วิธีจัดการกับมังคุดก็ให้เราเอามีดกรีดไปที่เปลือกตรงกลางลูกแบบในภาพนะคะ จากนั้นดึงเอาเปลือกข้างนอกทิ้งไป แล้วค่อย ๆ แงะเอาเนื้อมังคุดที่อยู่ในเปลือกอีกข้างหนึ่งออกมาอย่างเบามือ (ระวังช้ำ) ใส่ลงไปในอ่างน้ำเย็นที่ผสมเกลือป่นอยู่นิดหน่อย ก่อนที่จะแกะเป็น 1-2-3 กลีบ แล้วเอาขึ้นใส่กระชอนโปร่ง ๆ พักไว้ให้สะเด็ดน้ำค่ะ
ป.ล. ไส้ในของมังคุดที่มีแดง ๆ เหลือง ๆ เฉือนออกด้วยมีดหรือดึงออกอย่างเบามือ...ให้หมดด้วยนะคะ ไม่งั้นยำออกมาแล้วอาจจะมีรสฝาดในบางส่วน และสีมังคุดจะกระดำกระด่าง ไม่ขาวนวลเนียนอ่ะค่ะ
ต่อ มาก็มาจัดการกับเนื้อสัตว์กันต่อนะคะ.... ก็เอาหม้อใบย่อม ๆ ตั้งบนเตาไฟ ใส่น้ำไปสัก 1/2 - 3/4 ถ้วย เปิดไฟเตากลาง ๆ รอจนน้ำเดือด ก็ใส่กุ้งลงไป รอจนกุ้งสุก ก็ตักขึ้นใส่จานไว้ค่ะ
จาก นั้นก็นำหม้อใบเดิม (ไม่ต้องเทน้ำต้มกุ้งทิ้ง) ตั้งไฟอีกรอบ พอน้ำเดือด ก็ใส่หมูสับลงไป ยีด้วยทัพพีให้หมูกระจายตัวเป็นชิ้นเล็ก ๆ ไม่เกาะกันเป็นก้อน ทิ้งไว้สักแป๊บจนหมูสุก ก็ปิดไฟเตาและพักหมูไว้ให้คลายความร้อนลงสักหน่อยค่ะ
และ เมื่อเตรียมเครื่องทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาลงมือทำล่ะค่ะ... เริ่มต้นด้วยการหากะละมังใบย่อม ๆ มาสักใบ ใส่หอมแดงกับพริกขี้หนูที่เราซอยไว้ลงไป ตามด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาล คนให้เข้ากันจนกระทั่งน้ำตาลละลายหมด
ป.ล. ปริมาณน้ำตาลทรายให้ใส่ไปแค่ 1 ช้อนโต๊ะก่อนค่ะ หากหลังจากผสมทุกอย่างเสร็จแล้ว รสชาติยังไม่กลมกล่อม ถึงค่อยเติมน้ำตาลทรายเพิ่มนะคะ
แล้วก็ใส่กุ้ง หมู และมังคุด ตามลงไป... คนพอเข้ากันอย่างเบามือ ชิมรสชาติตามชอบ ถ้ายังไม่ชอบ ก็ปรุงแต่งเอาตามความพอใจเลยนะคะ ซึ่งยำอันนี้จะรสชาติค่อนข้างนัว ๆ ค่ะ คือไม่หวานจัด ไม่เปรี้ยวจัด ไม่เค็ม แต่จะออกรสชาติเปรี้ยวหวานเล็กน้อยพอประมาณค่ะ (จะไปหวานหรือเปรี้ยวที่รสชาติของเนื้อมังคุดอีกที)
เสร็จ แล้วก็ตักใส่จาน.... เราก็จะได้ยำมังคุดออกมาหน้าตาแบบนี้นะคะ ตกแต่งด้วยสะระแหน่ให้พอสวยงาม ...... (เวลาจะกินจริง ๆ พิมเคล้ารวมกันหมดเลยค่ะ)
แล้วเราก็จะได้ยำมังคุดที่รสชาติหวานหอม กินแล้วให้ความรู้สึกสดชื่นมาก ๆ มาจานนึงแบบนี้อ่ะค่ะ
ก็ถ้าเพื่อน ๆ สนใจ ....... ลองทำดูกันนะคะ ไม่ยาก ใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง ก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ
อ้อ ๆ เกือบลืม สำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่ทานหมู เปลี่ยนเป็นไก่สับได้นะคะ แต่รสชาติและความนุ่มนวลจะด้อยกว่าใช้เนื้อหมูสับอยู่นิดนึงจ้า ......... ยังไงลองดูนะคะ ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น