โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 มกราคม 2555 09:34 น.
ถ้าพูดถึงปอเปี๊ยะที่สวนจตุจักร ก็คงจะไม่มีใครปฏิเสธถึงชื่อเสียงของ “ร้านดิพฟรายด์ ปอเปรี๊ยะหลายใจ เปลี่ยนไส้ทุกเดือน” เพราะ จุดขายอยู่ ความหลากหลายของไส้ปอเปี๊ยะ แบบไม่ธรรมดา เพราะเหมือนกับชื่อร้าน เปลี่ยนไส้ทุกเดือน เรียกได้ว่า ถ้าอยากกินปอเปี๊ยะไส้อะไร ก็นำเสนอเจ้าของร้านได้
|
นายณัฐวุฒิ ไตรสินสถิต เจ้าของร้าน เล่า ว่า จุดเริ่มต้นมาจากการเป็นแฟนพันธุ์แท้ ของแหล่งชอปปิ้งย่านสวนจตุจักร ได้มีโอกาสมาเดินที่แห่งนี้บ่อยๆ เวลามาเดินสิ่งแรกนึกถึงคือ การหาของกินอร่อยๆ แต่ก็มีร้านประจำอยู่ไม่กี่ร้าน บางครั้ง ไม่ได้รู้สึกหิวมาก แต่ก็อยากหาอะไรกินเล่น แบบไม่ต้องรอคิวนาน และไม่ซ้ำแบบเดิม ประกอบกับช่วงนั้นก็ลาออกจากงานประจำ ก็เลยมีความคิดว่า น่าจะลงทุนทำร้านขายของทอดกินเล่น ให้ลูกค้าเดินไปกินไปชอปปิ้งไป
|
|
นายณัฐวุฒิ ไตรสินสถิต เจ้าของร้านถ่ายพร้อมกับหุ้นส่วน |
|
|
ทั้งนี้ จากการที่ได้ไปเรียนและฝึกงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เลยลองปรึกษา ทาง เจ้าของร้าน แนะนำว่าลองทำปอเปี๊ยะไส้หวานดูบ้างก็ได้ เลยปิ๊งไอเดียว่า งั้นเอาปอเปี๊ยะเป็นเมนูหลัก แล้วครีเอทไส้ใหม่ๆดีกว่า ถ้าเบื่อก็จะได้เปลี่ยนไส้ได้ด้วย เลยลองทำมาให้พี่ๆที่ร้านและ เพื่อนได้ชิมกัน จากนั้นก็ชวนเพื่อนๆ ที่สนใจต้องการจะมีร้านมาร่วมกันทำ ก่อนจะเปิดร้าน ได้ช่วยกันชิม เพื่อนำมาปรับปรุงให้ได้รสชาติที่ลงตัวที่สุด อยู่ระยะหนึ่ง และเริ่มเปิดร้านสวนจตุจักรในเดือนเมษายน ปี 2553
สำหรับรูปร่างหน้าตาของปอเปี๊ยะทางร้านจะแต่งต่างจากปอเปี๊ยะทั่วๆไป เพราะปกติปอเปี๊ยะจะมีไส้เดียว แต่ปอเปี๊ยะจานหลักของร้านที่มีให้เลือกมากถึง 10 ไส้ โดยจะมี 5 ไส้หลักที่มีประจำทุกอาทิตย์ คือ คลาสสิค , เห็ดรวม , ต้มยำกุ้ง , แฮมชีส , ลาบไก่ ส่วน อีก 5 ไส้จะเป็นไส้ใหม่ๆ ที่หมุนเวียนมาให้ลูกค้าเลือก อย่างช่วงนี้จะมี ปลากะพงซอสทาร์ทาร์ , สันในหมูผัดกะหล่ำปลี , หอยลายผัดพริกเผา , ลาซานญ่าหมู
|
|
เตรียมเครื่องเคียงพร้อมเสิร์ฟ |
|
|
ล่าสุดน้องใหม่ ไส้ แกงโฮะ ได้พ่อครัวเป็นคนลำปางมาช่วย ซึ่งในส่วนของไส้ จะมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไส้ไหนที่ขายไม่ดี ก็จะถอดออกไป และคิดไส้ใหม่ๆ เข้ามาเรื่อย เพราะต้องการให้ลูกค้าได้ลองอะไรที่แตกต่าง ไม่จำเจ นอกจากนี้ ทางร้านก็ยังมีปอเปี๊ยะของหวาน ตอน นี้มี 3 ไส้ คือ กล้วยอัลมอนด์ราดซอสชอคโกแลต , มะม่วงครีมชีสราดซอสสตรอเบอรี่ , บลูเบอรี่ชีสพาย ทั้ง 3 ไส้ เสิร์ฟพร้อมไอศครีมรสวนิลา
ในช่วงหลัง ได้หุ้นส่วนคนใหม่ ซึ่งเคยไปทำงานร้านอาหารที่ลอนดอนมากว่า 3 ปี เข้ามาดูแลในส่วนของไส้ปอเปี๊ยะ อย่างช่วงนี้ก็จะมีไส้ใหม่ๆ อาทิ ลาซานญ่าหมู หอยลายผัดพริกเผา มาให้ลองกัน ส่วนรสชาติที่ได้รับความนิยม จะมี แฮมชีส ต้มยำกุ้ง ลาบไก่ ไม่ว่าใครมาสั่งเป็นต้องมี 1 ใน 3 ไส้นี้อยู่ทุกครั้ง
|
|
ปอเปี๊ยะไส้แฮมชีส เมนูยอดนิยม |
|
|
ในส่วนบรรยากาศของร้าน จะเน้นการจัดร้านแบบให้ลูกค้าได้รู้สึกสบายๆ ผ่อนคลาย จากการเดินชอปปิ้งในสวนจตุจักร และที่สำคัญได้รับในสิ่งที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นสามารถครีเอทเมนูได้ตามใจชอบ เลือกได้ว่าหิวขั้นไหน ต้องการกินกี่ชิ้น ต้องการไส้อะไรบ้าง เพื่อที่ว่าแต่ละคนก็จะได้ปอเปี๊ยะในแบบที่ตัวเองต้องการจะกินจริงๆ
|
โดยร้านปอเปี๊ยะดิพฟรายด์ จะให้ความสำคัญกับการทอดใหม่ๆสดๆ ซึ่งจะรอให้ลูกค้าสั่งก่อนแล้วถึงจะนำมาทอด หลายคนมองว่า ทำแบบนี้จะเสียเวลา แนะนำให้ทอดไว้ก่อน แต่ผมว่าอุณหภูมิและความสดกรอบเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงน้ำจิ้มเราก็ให้ความสำคัญเช่นกัน นอกจากร้านเราจะมีปอเปี๊ยะกว่า 30 เมนู เรายังมีน้ำจิ้มอีกกว่า 10 ชนิด ที่ประยุกต์ให้เหมาะกับปอเปี๊ยะแต่ละแบบ ปอเปี๊ยะอาจจะดูเป็นของกินเล่นก็จริง แต่ร้านดิพฟรายด์ของเราจริงจังเรื่องปอเปี๊ยะมาก”
|
สำหรับแผนการตลาด ช่วงแรกเป็นสไตล์โฮมเมด ทำเอง ห่อเอง ทุกอย่าง จนหลังๆร้านเริ่มโตขึ้น ทำเองทุกอย่างไม่ทัน ซึ่งมีกันอยู่แค่ 4 คน ตอนนี้กำลังสร้างทีมฝ่ายผลิตขึ้นมารองรับงานในส่วนนี้ เพราะปัจจุบันไม่ได้มีช่องทางการขายที่หน้าร้านจตุจักรเพียงอย่างเดียว แต่ ที่ผ่านมารับเราทำแพคเกจรับออกงานจัดเลี้ยง Catering ด้วย และขายแบบแช่แข็งให้เอาไปทอดเองที่บ้าน ช่วงเดือนหน้าจะเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายอีกส่วนหนึ่ง คือเริ่มขายแฟรนไชส์ ให้ลูกค้าที่เคยสอบถามมา ส่วนร้านที่สวนจตุจักรก็จะขยายร้านเพิ่มที่นั่งให้ลูกค้าได้มานั่งกินสบายๆขึ้น
ส่วนกลุ่มลูกค้า ด้วยลักษณะเมนูของร้าน ทำให้ลูกค้าของเรามีทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ โดยส่วนใหญ่จะเป็นพ่อค้าแม่ค้า ที่ขายของอยู่ในสวนจตุจักร แล้วก็คนที่มาชอปปิ้ง ตอนนี้ก็มีลูกค้าประจำพอสมควร หลายคนแวะมาบ่อย เลยเป็นเพื่อนกันก็ค่อนข้างเยอะ โดยราคาขายปอเปี๊ยะดิพฟรายด์มีหลายไซส์ให้เลือก แล้วแต่ระดับความหิว เริ่ม จากS - 3 ชิ้น 45บาท M - 5 ชิ้น 70 บาท L - 7 ชิ้น 100 บาท แถมน้ำใบเตย XL - 9 ชิ้น บวก ของทอดกินเล่นหนึ่งอย่าง 150 บาท ส่วนไอศกรีมถ้วยเล็ก 25บาท ถ้วยใหญ่ 50 บาท ของทอดทานเล่นชุดละ 40 บาท โดยยอดขายต่อวันอยู่ที่ประมาณ 6,000 บาท
|
นายณัฐวุฒิ เล่าถึงแผนการตลาดในอนาคตว่า ในช่วงนี้ขอดูความเป็นไปของสวนจตุจักรในช่วงเปลี่ยนผ่านซักหน่อย แต่หลักๆคือ เราต้องการคงร้านนี้ไว้เป็นต้นแบบสำหรับให้ลูกค้าได้มาลองชิม ถ้าถูกใจก็ชวนเราไปออกร้าน ซื้อไปทอดเองที่บ้าน หรือซื้อแฟรนไชส์ อีกสถานที่ซึ่งเราสนใจจะไปขยายตลาดคือที่มาบุญครอง เพราะเป็นจุดที่มีผู้คนจำนวนมากหลากหลาย เชื้อชาติ และที่สำคัญมีชาวต่างชาติเดินเป็นจำนวนมาก ซึ่ง ถ้ามีโอกาสเป็นไปได้เราก็ตั้งใจจะผลักดันร้านปอเปี๊ยะดิพฟรายด์เปิดตลาดในต่างประเทศ
โทร. 08-9667-1472 |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น