กรุบกรอบกับข้าวเกรียบ
ของ กินเล่นและอาหารเรียกน้ำย่อย มีอยู่แทบทุกวัฒนธรรมอาหารทั่วโลก ส่วนใหญ่เป็นอาหารมันและเค็มเล็กน้อย เพราะช่วยกระตุ้นให้อยากกินอาหารเพิ่มมากขึ้น
"ข้าวเกรียบ" ก็ เป็นหนึ่งในของกินเล่นและอาหารเรียกน้ำย่อยที่มีรสมันเค็ม ชวนกระตุ้นน้ำลาย แป้งแผ่นบางกรอบนี้แปรรูปมาจากข้าวให้กลายมาเป็นของกินเล่นที่มีรสอร่อย เพิ่มรสชาติให้น่ากินด้วยพืชผักและเนื้อสัตว์ แล้วนำมาทอดหรือปิ้งให้กรอบอีกครั้ง เนื้อสัมผัสที่กรอบก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้อาหารมีรสอร่อยขึ้น ข้าวเกรียบไทย ทำ มาจากข้าวเจ้า โดยนำมาผ่านกรรมวิธีและปรุงรสให้อร่อยขึ้นด้วยพืชผัก เช่น ฟักทอง หรือเนื้อสัตว์บดละเอียด เช่น กุ้งและปลา เป็นข้าวเกรียบกุ้งและปลาใส่เครื่องเทศสมุนไพรไทยๆ อย่างกระเทียม พริกไทย เพื่อดับกลิ่นคาวและให้ได้รสอร่อย เมื่อผสมส่วนผสมเข้ากันดีแล้วจึงปั้นเป็นท่อนและนึ่งจนสุก หั่นเป็นแว่นบางๆ ตากให้แห้งสนิท 2-3 วัน เพื่อให้เก็บไว้ได้นาน เมื่อจะกินจึงนำมาทอด จิ้มกินกับน้ำพริกเผาได้รสอร่อย
ส่วนข้าวเกรียบพื้นเมืองล้านนาที่เรียกว่า "ข้าวแคบ" ทำ มาจากข้าวเจ้าหรือข้าวเหนียวที่หมักไว้ 2 คืนให้มีรสเปรี้ยว ปรุงรสด้วยเกลือเพิ่มความเค็ม และใส่งาดำเพื่อให้หอมและมัน จากนั้นละเลงแป้งบนปากหม้อที่กรุด้วยผ้าขาวบาง (แบบข้าวเกรียบปากหม้อ) แล้วแซะออก นำไปตากแดดจนแห้ง จากนั้นนำไปปิ้งหรือทอดตามชอบ
ตอร์ติญาชิป (Tortilla Chip) เป็นของกินเล่นเม็กซิกันที่ทำมาจาก "แป้งตอร์ติญา" แผ่น แป้งวงกลมเนื้อนุ่มที่ทำมาจากแป้งข้าวโพด นำมาตัดเป็นชิ้นสามเหลี่ยมและทอดจนกรอบ โดยทั่วไปที่เห็นเป็นแผ่นสีเหลืองนั้นทำมาจากข้าวโพดเหลือง แต่ก็ใช้ข้าวโพดสีอื่นได้เช่นกัน ตอร์ติญาชิปใช้เสิร์ฟคู่กับเครื่องจิ้ม (Dip) เช่น ซัลซามะเขือเทศ กัวกาโมเล อะโวคาโดบด หรือทำเมนูที่เรียกว่านาโช (Nachos) โดยนำตอร์ติญาชิปมาโรยหน้าด้วยชีสขูด เนื้อบด ซัลซา ถั่ว กัวกาโมเล ซาวร์ครีม หอมหัวใหญ่สับ และพริกจาลาเปโนดองเพื่อเพิ่มรสชาติ
ปาปาดัม (Papadum) แป้ง กรอบแผ่นบางจากอินเดีย เป็นแครกเกอร์หรือขนมปังแผ่นชนิดหนึ่งที่เสิร์ฟเป็นเครื่องเคียงเพื่อเรียก น้ำย่อยหรือกินเล่นคู่กับชัตเนย์ บางภูมิภาคของอินเดียก็นิยมกินปาปาดัมดิบโดยใส่ในแกง ปาปาดัมทำมาจากแป้ง ข้าวบด ถั่วบดชนิดต่างๆ เช่น เลนทิล ชิกพี และถั่วดำ เติมรสด้วยเกลือ และใส่น้ำมันถั่วลิสงเพื่อให้ปั้นเป็นแผ่นได้ง่าย ปรุงรสให้มีกลิ่นอายภารตะด้วยพริก ยี่หร่า กระเทียม และพริกไทยดำ จากนั้นทำเป็นแผ่นกลมแบนและตากแดดจนแห้ง เมื่อจะกินก็นำมาทอดหรือปิ้งอีกครั้งจนกรอบ
- ขอขอบคุณ :นิตยสาร Gourmet & Cuisineผู้สนับสนุนเนื้อหา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น