ลิ้มรส'สลัด'สดกรอบอร่อยหวานชื่นใจน้ำปั่นหลากสไตล์


เมื่อ สองเดือนที่แล้วผมขึ้นไปพักผ่อนและไปเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่มาครับ โดยมากแล้วเมื่อผมไปก็จะพักที่บ้านแสนดอยซึ่งเป็นโรงแรมของพี่สาวผม และเมื่อไปจังหวัดเชียงใหม่ทีไรพี่สาวของผมก็จะพาไปทานอาหารที่อร่อย ๆ หรือไม่ก็เป็นอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะตอนนี้ผมพยายามที่จะลดน้ำหนักครับ ผมลดลงมาได้ 7-8 กิโลกรัมแล้ว และผมก็มีความรู้สึกว่า เมื่อน้ำหนักลดลงแล้วผมมีความคล่องแคล่วขึ้นพี่สาวผมก็เลยพาผมไปกินอาหารที่ ร้านที่มีชื่อว่า เดอะ สลัด คอนเซปต์ เรสเตอรองต์ ที่ถนนนิมมานเหมินท์ครับ

ร้านนี้ตอนเปิดแรกๆเป็นร้านเล็กๆครับ แต่หลังจากที่มีผู้คนเข้ามากินกันเป็นจำนวนมาก ก็เลยขยายร้านออกไปเนื่องจากเป็นที่ของตัวเองอยู่แล้ว โดยมีบ้านที่พักอาศัยอยู่ด้านหลัง

ร้านอาหารร้านนี้ เป็นร้านสลัดโดยเฉพาะเลยนะครับ แต่ความจริงแล้วก็ยังมีของกินอย่างอื่นให้กินด้วย แต่ว่า สลัด และน้ำปั่นเพื่อสุขภาพ รวมทั้งสินค้าที่เป็นของบำรุงสุขภาพจะเป็นสินค้าหลักของที่ร้านนี้เลยครับ


ที่นี่มีเมนูให้เลือกหลายอย่างด้วยกันครับ เมื่อเข้าไปในร้านแล้วจะเห็น สลัดบาร์ ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสลัดบาร์ที่เอาผักทุกชนิดมาเตรียมไว้เพื่อรองรับความต้องการของ ลูกค้าว่าจะใส่อะไรบ้าง จะใส่ผักหรือใส่ถั่วก็สามารถเลือกได้ตามความชอบครับ

โดยผักสลัดส่วนมากจะมาจากโครงการหลวง และเป็นผักออร์แกนิกด้วยนะครับ ซึ่งความจริงแล้วผักสลัดไม่ใช่ของที่ถูกนะครับ ยิ่งหน้าฝนหรือหน้าร้อน ผักสลัดจะปลูกยากและราคาสูงพอสมควร แต่สำหรับร้านนี้ราคาไม่แพงอะไรมากนักนะครับ

ใครต้องการอะไรจะมีบอร์ดให้ดูเลยนะครับว่า เมนูที่ร้านมีอะไรบ้าง หรือจะอ่านเมนูที่โต๊ะก็ได้ สำหรับผมเดินไปอ่านเมนูในกระดานครับ เขียนไว้สวยงามเลยครับ ผมชอบบรรยากาศร้านนี้มาก เป็นร้านที่นั่งสบาย ๆ เป็นกันเองดีครับ


ที่ร้านมีหนุ่มๆสาวๆนักศึกษาที่รักสุขภาพมานั่งทานอาหารที่ร้านนี้กันหลาย โต๊ะครับ ที่ผมเห็น พวกเด็กๆ จะชอบสั่ง น้ำปั่น มากินกัน น้ำปั่นที่นี่มีอยู่หลายชนิดด้วยกันครับ มีน้ำปั่นที่ใส่พืชผักอะไรต่าง ๆ ด้วยนะครับ ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ครับ เช่น น้ำบีทรูทปั่น และยังมีน้ำปั่นอีกหลายอย่างครับ ผมคงพูดได้ไม่หมด ต้องลองไปชิมกันดูและไปถามเขาเองนะครับว่ามีอะไรให้ลองชิมบ้าง


มาพูดถึงอาหารกันบ้าง อาหารส่วนใหญ่จะเป็นสลัดครับ มีทั้ง สลัดไก่ และสลัดต่าง ๆ โดยสลัดของที่นี่จะเป็นอาหารจานหลักได้เลยนะครับ ที่ผมสั่งมาทานเป็นสลัดแต่ก็มีเนื้อสัตว์นิดหน่อย เป็นสลัดเนื้อย่าง เสิร์ฟแบบเย็นๆ มาเลยนะครับ ที่นี่เขาเลือกน้ำสลัดได้ด้วยนะครับ มีทั้งน้ำสลัดญี่ปุ่น หรือจะเป็นน้ำสลัดครีม ที่จริงผมไม่ชอบน้ำสลัดครีมเท่าไหร่ อย่าง น้ำสลัดเธาซันไอส์แลนด์ เพราะว่าทำจากไข่และตีให้เป็นครีมขึ้นมา ซึ่งมีทั้งไขมันและน้ำมันอยู่มาก แต่ที่ผมชอบ คือ น้ำสลัดญี่ปุ่น

อาหารที่ร้านนี้ ยังมีเมนูประจำวันด้วยนะครับ ซึ่งวันที่ผมไปนั้น เป็นปลาชุบแป้งทอดเสิร์ฟกับสลัดมัน และต้องบอกเพื่อนๆ ว่าราคาไม่แพงครับ และเป็นอาหารที่ไม่เป็นโทษต่อร่างกายของเราด้วยนะครับ เพราะมีผักเป็นส่วนประกอบของอาหารเกือบทั้งจานเลยก็ว่าได้ ผมก็เลยโผเข้าหาเลยครับ

ส่วนของหวาน ผมไม่รู้จะทำอย่างไรดี เพราะว่าเขามีขนมหลายชนิด แต่ขนมเขาไม่ได้ทำเองนะครับ รับมาจากที่อื่น มี แอปเปิ้ล  ครัมเบิ้ล เค้กช็อกโกแลต และอะไรต่างๆ อีกหลายอย่างครับ เมื่อผมเห็นแล้วต้องพยายามยับยั้งตัวเองให้ได้ครับ แต่ผมก็ได้ลองชิมเค้กช็อกโกแลต ไปนิดหนึ่ง อร่อยใช้ได้ครับ

การทานสลัดเพื่อรักษาสุขภาพเป็นเรื่องที่ดีนะครับ ร้านนี้จึงเป็นอีกร้านหนึ่ง ถ้าเพื่อนๆ ไปจังหวัดเชียงใหม่ ก็ลองแวะไปชิมกันดู อาหารเขาสดใหม่และสะอาดดีครับ ต้องลองไปชิมดู


ผมขอเล่าถึงร้านนี้ให้ฟังเล็กน้อยว่า แนวคิดที่เกิดขึ้นของร้านนี้ คือลูกๆ ของเจ้าของร้าน รวมทั้งตัวเจ้าของร้านเองด้วย ซึ่งท่านเป็นคนไม่ค่อยสบาย มีโรคประจำตัว เลยเปลี่ยนวิธีการกินหันมาบริโภคสลัดและอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ทำให้ร่างกายไม่มีสารพิษ ปรากฏว่าท่านก็หายจากโรคที่เป็น และตอนนี้สบายดี ร่างกายแข็งแรงขึ้น จึงทำให้ลูกๆ มีแนวคิดในการทำร้านอาหารขึ้น จึงเปิดร้านนี้ขึ้นมาและก็ประสบความสำเร็จพอสมควรครับ มีผู้คนให้ความสนใจเข้ามาทานกัน และราคาก็ไม่แพง ไม่ต้องเสียค่าเช่าที่ เพราะเป็นที่ของตัวเอง


เพราะฉะนั้นอย่าลืมแวะไปลองชิมกันดูนะครับ.


.............................................................................


เข้าครัวกับหมึกแดง:สตูหมูเปรี้ยวหวานกะหล่ำมะม่วง


เครื่องปรุง


-นํ้ามันมะกอก                    1/4      ถ้วยตวง

-ไหล่หมูหั่นเต๋าใหญ่          300    กรัม


-เบคอนซอย                      100    กรัม


-หอมหัวใหญ่สับ                    2    ช้อนโต๊ะ


-กะหล่ำม่วงซอย                200    กรัม


-นํ้าส้มจากไวน์แดง             1/4    ถ้วยตวง


-แยมผิวส้ม                          1/4    ถ้วยตวง


-นํ้าตาลทรายแดง                   2    ช้อนโต๊ะ


-เกลือป่น                           พอประมาณ


-พริกไทยดำบดสด             พอประมาณ


-ใบกระวาน                          2–3    ใบ


-มันฝรั่งสไลซ์บาง ๆ                  3    หัว


-เกลือป่น                            พอประมาณ


-เนยละลายแล้ว                   1/4    ถ้วยตวง


-เกล็ดขนมปังป่น                     1    ถ้วยตวง


วิธีทำ


1. นำกระทะตั้งเตาให้ร้อน ใส่น้ำมันมะกอกลงไปพอร้อน


2. ใส่ไหล่หมูหั่นเต๋าใหญ่ลงไปนาบให้ข้างนอกเหลือง ตักออกพักไว้


3. ในกระทะเดียวกัน ใส่เบคอนซอยลงไปผัดพอหอม ใส่หอมหัวใหญ่สับ ผัดให้เข้ากัน


4. ใส่กะหลํ่าม่วงซอยลงไปครึ่งหนึ่ง (กะหล่ำม่วงที่คลุกในชามผสมกับน้ำส้มจากไวน์แดงจะได้ไม่ดำ) ผัดพอผักสลด แล้วเติมกะหล่ำม่วงส่วนที่เหลือลงไป ผัดให้เข้ากัน


5. ปรุงรสด้วย แยมผิวส้ม นํ้าส้มจากไวน์แดง น้ำตาลทรายแดง เกลือป่น พริกไทยดำบดสด ผัดให้เข้ากัน


6. เทหมูที่นาบกระทะไว้ลงไป ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่ใบกระวาน ตั้งไฟให้เดือด


7. เทส่วนผสมที่ได้ลงในถาดอบ แล้วเรียงมันฝรั่งสไลซ์บางๆ ไว้ลงบนหน้า  สตู โรยหน้าด้วยเกลือป่น พริกไทย ให้ทั่วและทาด้วยเนย


8. อุ่นเตาอบไว้อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส


9. ปิดหน้าด้วยกระดาษฟอยล์ นำเข้าเตาอบ ใช้เวลาอบประมาณ 45 นาที จึงเปิดฟอยล์ออก แล้วโรยหน้าอีกครั้งด้วยเกล็ดขนมปังป่น และเนยละลายแล้ว


10. นำถาดอบเข้าอบอีกครั้งให้หน้าเหลือง ใช้เวลาประมาณ 20 นาที หรือจนกระทั่งสุก


11. ตักสตูหมูเปรี้ยวหวานใส่จานเสิร์ฟร้อน ๆ หรือให้เสิร์ฟกันเองจากถาด.

............................................................................................


ชิมให้เป็น:วัฒนธรรมการชิมสลัด


วัฒนธรรมการชิมสลัดนั้น เป็นวัฒนธรรมการกินของฝรั่งเขานะครับ คนไทย เรียกสลัดว่า ยำ ซึ่งโดยมากแล้ว ยำของเรานั้นจะเสิร์ฟในอุณหภูมิของห้อง หรืออาจจะเป็นอาหารที่ทำให้เกิดความร้อนขึ้นมาบ้าง อย่าง ลาบ จะต้องเสิร์ฟร้อนเล็กน้อย


ในส่วนของความแตกต่างระหว่างสลัดฝรั่งกับยำของไทยก็คือ ผักสลัดต้องเย็นและวัตถุดิบต้องกรอบ ในขณะที่น้ำสลัดของเขานั้นมี 2 แบบ คือ น้ำสลัด ที่เป็นครีม กับแบบน้ำสลัดใสแต่จะเห็นได้ว่าแตกต่างกับน้ำสลัดของไทยโดยปริยายเลยครับ เพราะว่าน้ำสลัดของไทยไม่มีน้ำมัน แต่น้ำสลัดของฝรั่งจะมีน้ำมันทุกชนิดเลยครับ


ซึ่งตรงนี้ เป็นหลักการและกฎเกณฑ์ของการทำน้ำสลัดของฝรั่งเขาครับ และวิธีการกินก็เช่นเดียวกันนะครับ จะเสิร์ฟแบบเย็นๆ ทุกอย่างเย็นหมดเลยครับ น้ำสลัดก็เย็น และที่ประหลาดที่สุด คือ ถ้าเราจะกินเราต้องใส่น้ำสลัดไม่อย่างนั้นผักสลัดจะเซ็ง ไม่กรอบ และไม่อร่อยครับเช่นเดียวกับอาหารไทยครับ เวลายำแล้ว ปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต้องกินเดี๋ยวนั้นเลย ไม่อย่างนั้น ไม่อร่อยครับ ฉะนั้นเราต้องเข้าใจวิธีการกินของฝรั่งและน้ำสลัดของฝรั่งด้วยว่า น้ำสลัดของฝรั่งจะไม่หวาน แต่จะมีเปรี้ยว มีรสเค็ม  ตามหลักแล้วรสชาติสลัดของฝรั่งจะต้องมีรสเปรี้ยวนำมาก่อนเลยครับ ตามด้วยรสเค็ม ส่วนความหอมนั้น แล้วแต่คนทำครับ เพราะฉะนั้นชิมให้เป็นต้องรู้ว่าสลัดและน้ำสลัดต้องเย็นเสมอไป ถึงจะอร่อยและกรอบในปากครับ.

หมึกแดง
www.mcdangguide.com

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=486&contentID=149563

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

5 สุดยอดร้านสุกี้ทั่วกรุง 5 สุดยอดร้านโจ๊กในกรุงเทพ 50 อาหารแปลกแต่ขายดีของญี่ปุ่น 101 เมนูซูชิ 5 สุดยอดร้านกระเพาะปลาในกรุงเทพ อาหาร 100 อย่างตามทางรถไฟสายยามาโนเตะ อาหารเวียดนาม ขนมไทยโบราณที่น่าจดจำ และ ขนมไทยมงคล ๙ อย่าง 30 อันดับขนมหวานเมืองคามาคูระประเทศญี่ปุ่น อาหารประเทศอาเซียน 7 ขนมหวานยอดฮิตของเยอรมัน  อาหารลาว 10 สายพันธุ์งูน่าทึ่ง 25 สถานที่ดำน้ำทั่วโลก 25 สัตว์น้ำรูปร่างหน้าตาประหลาด ไขปริศนาใครคือแจ๊คเดอะริปเปอร์ (Jack The Ripper) 20 พืชผักแปลกสายพันธุ์เก่าแก่ 10 อันดับสัตว์มีพิษ ตำนานธอร์ (Thor) เทพสายฟ้า 10 อันดับสัตว์สถาปนิก 15 สัตว์โลกสวยงามที่ใกล้สูญพันธุ์ เปิดแฟ้มลับชีวิตรัก อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) เห็ดมีพิษ 10 อันดับฆาตกรเด็ก 10 อันดับสัตว์ผีดูดเลือด 10 อันดับสัตว์แปลกที่คนไทยนิยมเลี้ยงมากที่สุด 10 เกมส์ดีที่โลกควรรู้จัก ช่วยฝึกสมอง เด็กเล่นได้ไม่รุนแรง แนะนำ Android Games Cloud Computing http://megatopic.blogspot.com/2013/08/20-90s.html http://megatopic.blogspot.com/2013/12/dead-island-riptide.html http://megatopic.blogspot.com/2013/09/blog-post_2.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/application-iphone-ipad-1.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/blog-post_866.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/101.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/application-iphone-ipad-1.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/botox-filler.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_8739.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_8.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/great-wall-of-china.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_3921.html http://megatopic.blogspot.com/2013/10/blog-post_24.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_8781.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/blog-post_23.html http://www.blogger.com/%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7...%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_19.html http://megatopic.blogspot.com/2013/10/blog-post_6477.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/butterfly-pea.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_7684.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/blog-post_6.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_27.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/nikita-khrushchev.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_16.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_3574.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/8.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/blog-post_22.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_954.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_28.html http://megatopic.blogspot.com/2013/09/blog-post_17.html http://megatopic.blogspot.com/2013/11/2-tasty-too.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/blog-post_22.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/10.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/7.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_4.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/blog-post_7834.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/stephen-hawking.html http://megatopic.blogspot.com/2013/09/10_13.html http://megatopic.blogspot.com/2013/09/10_27.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/10.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_14.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/acerola-cherry.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_18.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/albert-einstein.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_30.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/blog-post_26.html http://megatopic.blogspot.com/2013/09/blog-post_6378.html http://megatopic.blogspot.com/2013/09/blog-post.html http://megatopic.blogspot.com/2013/10/blog-post_28.html http://megatopic.blogspot.com/2013/11/blog-post_24.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/apache-helicopter.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/blog-post_7038.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/25_22.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/blog-post_20.html http://megatopic.blogspot.com/2013/08/blog-post_28.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_4929.html http://megatopic.blogspot.com/2013/06/blog-post.html http://megatopic.blogspot.com/2013/07/blog-post_18.html