แม้แต่ชื่อเก่าเจ้าก็ลืมซะแล้ว "เจ้าปลาสำลี"
บ้านเราเรียก "ปลาช่อลำดวน" มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ทำไมเดี๋ยวนี้เธอ
เปลี่ยนชื่อไปเป็น "ปลาสำลี" ซะแล้วล่ะ ปลาสำลีเป็นปลาเนื้อเยอะ
และนุ่ม เมื่อก่อนโป๊ะบ้านเราจับเธอมาได้มากมาย ปัจจุบันหาเธอไม่ได้
อีกแล้ว นอกจากจะได้เธอมาจากเรืออวนใหญ่ที่ออกไปลากปลาในน้ำลึก
หรือไม่ก็ไปจับเธอได้มากมายแถวๆๆน่านน้ำของพม่า และของเขมร เพราะ
บ้านเรานั้นหายากแล้ว สงสัยโตไม่ทันกินแน่เลย อีกอย่างที่ทำให้หาเธอ
ได้ยากน่าจะมาจากการที่เขาใช้อวนลาก ลากลูกปลาเล็กปลาน้อยตาม
ชายฝั่งไปหมด ทำให้มันแทบจะสูญพันธุ์กันเลย จริงๆๆแล้วเราเคยทราบ
มาว่าเขาไม่อนุญาตให้ใช้อวนลากในเขตชายฝั่งนะ แต่ก็ยังทำกันอยู่อีก
โดยขาดจิตสำนึกเห็นแก่ได้เท่านั้น สมน้ำหน้าที่เดี๋ยวนี้ต้่องซื้อของแพง
และยังต้องกินปลาแช่น้ำแข็ง เพราะเขาออกไปจับในน่านน้ำของเพื่อนบ้าน
มาขายให้เรากินกัน สักวันคงได้โดนฟอร์มารีนแน่ เอ๋...หรือโดนเข้าไป
แล้วแต่ไม่รู้ตัวกันแน่ ฮ่าๆๆๆๆๆ
เกร็ดละเอียดมากติดอยู่ตามผิวหนัง เป็นปลาที่มีเนื้อนุ่มและมัน กินอร่อย
ไม่ว่าจะนำไปทอดหรือนำไปต้มยำทำแกงอะไรก็ได้เนื้อเยอะ ส่วนหัวก็ไม่
แข็งทอดกรอบกัดกินได้เลย สมัยก่อนแม่เราชอบเอามาย่าง แล้วจิ้มน้ำปลา
มะกอกกินกัน เราไม่ค่อยชอบหรอกเพราะหนังมันบางแกะยากน่ะ ถ้าเอา
มาขอดเกร็ดทอดซะหน่อยก็ยังน่ากิน เวลานำไปทอดไม่ขอดเกร็ดก็กินได้
เพราะเกร็ดมันละเอียดมากก็เลยกรอบอร่อย
เหงือกเป็นสีแดงสด หนังไม่ถลอก ปลาชนิดนี้หนังถลอกง่ายเพราะมีหนัง
บางมาก สีของตัวปลาจะส่งประกายเงาวับคล้ายสีเงินแซมเทา (ปัจจุบัน
จะดูได้ก็ต่อเมื่อออกเรือไปตกปลากลางทะเล หรือแอบเข้าไปตกในน่านน้ำ
เพื่อนบ้าน ถึงจะเห็นว่าเธอสดอย่างไร และเมื่อได้ลิ้มชิมรสสดๆๆของเธอ
เข้าไปแล้ว ต่อไปคุณๆๆท่านๆๆทั้งหลายไปกินตามร้านาอาหารก็จะรู้ว่าเธอ
ไม่ค่อยจะสดเท่าไหร่หรอก รสชาดอร่อยสู้สดซิงๆๆไม่ได้แน่ แต่เอาเถอะ
ขนาดไม่ค่อยสดอย่างนี้ เธอยังมีราคาแพงลิบ
ส่วนหัวถ้าทอดกรอบก็กินได้หมดแหละเพราะมันไม่แข็ง และอร่อยด้วย
ครีบก็นุ่มกินได้หมด ตามร้านเขานิยมแล่เป็นสองซีกไม่ขาดจากกัน
เพียงแค่เอาก้างกลางทิ้ง ก็นำไปทอดได้แล้ว เนื้อที่ทอดจะฟูกรอบ
ข้างในเนื้อขาวจั๊วะ รสชาดหวานปนมันอร่อยมากกกกก นิยมกินกับน้ำปลา
มะม่วงนะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น