สมุยเป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวในฝันของหลายๆ คนที่รักท้องทะเล เสน่ห์ของสมุยคือเกาะเล็กๆ ที่มีหาดทรายยาวขาวละเอียด น้ำทะเลใสแจ๋ว สามารถไปดำน้ำตามเกาะแก่งต่างๆ และถ้าใครมีแผนอยากจะไปเที่ยวสมุย แต่ไม่รู้จะพักที่ไหนและกินอะไรดี ลองไปทัวร์กับกูรูนักชิมดีกว่า ทัวร์กินครั้งนี้ ซิตี้แบงก์ ชวน ม.ล.ภาสันต์ สวัสดิวัตน์ หรือ “ ปิ่นโตเถาเล็ก” กูรูนักชิมรุ่นใหม่ไฟแรง เป็นหัวหน้าแก๊งนำไปซอกแซกตามซอกซอย ตั้งแต่ร้านธรรมดาราคาถูก ไปจนถึง Find Dinning ให้ลิ้มลองเมนูอาหารของเกาะนี้ว่าเด็ดแค่ไหน ทริปนี้พวกเราใช้เวลาซอกแซกกิน 3 วัน 2 คืน | |||||
จานแรกที่สั่งมาคือ แกงส้มปลายอดมะพร้าว (120บาท) รสแซบเหลือหลาย ต้องสั่งคู่กับไข่เจียวครัวชาวบ้าน (120 บาท) ที่ทอดกับเนื้อปูฟูเต็มจาน มาใต้แล้วอย่างไรก็ต้องขอชิม ผัดกะปิสะตอกุ้ง (100 บาท) แม้จะรู้ว่าสะตอจะทิ้งกลิ่นรุนแรงในตอนเช้าก็ตาม แต่ก็คุ้มเพราะเขาเลือกกะปิหอมอย่างดีมาผัด ทำให้รสชาติอร่อย ยิ่งเคี้ยวกับกุ้งสดรสและสะตอผัดสดๆ มันอร่อยมากๆ | |||||
อิ่มกับมื้อกลางวันแล้วก็ต้องแวะไปชม “หินตา หินยาย” สัญลักษณ์ของเกาะสมุย ที่ธรรมชาติบรรจงสรรค์สร้างด้วยอารมณ์ขำ-ขำ ใครเห็นแล้วต้องออกปากเลยว่า “ทำไมเหมือนอย่างนี้ !” อ้อ! อย่ามัวเพลินกับหินตาหินยายจนลืมซื้อของฝากขึ้นชื่อของที่นี่คือ “กะละแม” ที่หวานมันอร่อยกว่าทุกที่ ตกค่ำไปอุ่นเครื่องกันก่อนที่ Dining on the Rock @ Sixsense Hideaway Samui มองดูพระอาทิตย์ตกดิน พร้อมกับจิบค็อกเทลไปกับคานาเป้คำน้อยแต่อร่อยมากๆ อย่าง ส้มตำเนื้อแกะ , Hot dog, คานาเป้แซลมอน, ฮามาจิ ซูชิ ฯลฯ | |||||
คืนแรกพักกันที่ Melati Beach Resort & Spa โรงแรมหรูติดทะเลระดับ 5 ดาว ที่ตกแต่งด้วยศิลปะแบบไทยตามแบบฉบับของภาคใต้ บรรยากาศสบายจนทุกคนไม่อยากจะตื่นเช้าเพื่อมาทำกิจกรรมกันเลย | |||||
| |||||
ไหว้พระขอพรอิ่มบุญกันแล้ว ก็ไปหาของอร่อยอิ่มท้องกันบ้าง กูรูปิ่นโตเถาเล็กอาสาพาไปกินอาหารไทยที่ร้าน Samui Seafood Restaurant แม้จะไม่ใช่ร้านอาหารติดทะเล แต่ก็ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านไปทั่วบริเวณ ทำให้ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ในสวน อาหารที่นี่มีทั้งอาหารไทยและฝรั่ง โดยตำรับอาหารไทยนั้น ได้ที่ปรึกษาคือ อ.อมินตรา ศุกรสุวรรณ ทายาทผู้สืบทอดอาหารไทยตำรับชาววังจาก ม.ล.พวง ทินกร ณ อยุธยา นางข้าหลวงในพระองค์เจ้าหญิงจุฑารัตน์ราชกุมารี พระราชธิดาในรัชกาลที่ 5 | |||||
อิ่มจากมื้อกลางวัน ก็ไปผ่อนคลายยามบ่ายกับอาหารว่างเบาๆ ก่อนจะรับศึกหนักมื้อเย็น แค่รถเลี้ยวเข้าไปจอดที่ The Library โรงแรมสุดฮิปบนถนนเลียบหาดเฉวง พวกเราก็ตื่นเต้นกับคอนเซ็ปต์เก๋ไก๋ โดยได้ไอเดียมาจากนักท่องเที่ยวที่มาสมุย จะชอบนั่งนอนอ่านหนังสือตามชายหาด จึงพยายามทำโรงแรมให้เหมือนห้องสมุด ชื่อห้องก็เรียก Page แล้วตามด้วยเลขที่ห้อง ห้องพักแต่ละห้องเป็นอาคาร 2 ชั้น โปร่งโล่งสบาย ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ที่เจ้าของโรงแรมบอกว่าเป็นต้นไม้เดิมๆ ที่ไม่ยอมตัดทิ้งเลย ตามมุมต้นไม้จะมีรูปปั้นคนในโทนสีขาว นั่งบ้าง นอนบ้าง อ่านหนังสืออย่างสบายอารมณ์ ที่นี่มีห้องพัก 26 ห้อง ในราคา 3 วัน 2 คืน 19,900 บาท++ | |||||
| |||||
| |||||
เช้าวันใหม่รองท้องกับเมนูข้าวต้มธรรมดา แต่รสชาติอร่อยไม่แพ้อเมริกันเบรกฟาสต์ กับการต้อนรับอันแสนอบอุ่นของพนักงานทุกคนของโรงแรม ทำเอาพวกเราอิ่มใจก่อนอำลามุ่งหน้าไปทำภารกิจตะลุยชิมกันต่อไป จุดหมายปลายทางของมื้อกลางวันอยู่ที่หมู่บ้านชาวประมง เลาะไปตามซอกซอยแคบๆ หน่อย พอถึงท่าเรือจะมีร้านเก๋ๆ เป็นอาคารสองชั้นชื่อ The Pier ภายในร้านตกแต่งแบบเรียบแต่เก๋ในโทนสีดำ-ขาว จากฝีมือ ดวงฤทธิ์ บุนนาค ด้านหลังของร้านเปิดโล่งออกไปเห็นเด็กเล็กๆ 5-6 คนวิ่งซุกซนกระโดดเล่นน้ำดำผุดดำว่ายกันอย่างเพลินใจ | |||||
ก่อนขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯ พวกเรายังพอมีเวลาเหลืออีก 3 ชั่วโมง จึงแวะ “บาคูบุง” ร้านกาแฟที่เพิ่งเปิดมาได้ปีกว่าเท่านั้น คนตั้งชื่อบาคูบุงอันหมายถึงฮิปโปในภาษาแอฟริกันคือ ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ เภสัชกรหญิงไทยที่ไปอุทิศตัวให้กับการรักษาโรคเอดส์ที่แอฟริกาจนได้รับรางวัลแมกไซไซ | |||||
ที่นี่มีกาแฟเคนย่าที่มาเบลนด์กับกาแฟดอยช้าง ของไทยให้กลิ่นหอมอร่อย จิบกาแฟพร้อมบลูเบอรี่ชีสเค้ก ฝีมือภรรยาภูติ ที่ไม่หวานแต่เข้มด้วยมันเนย หรือใครชอบของคาวทานเล่น ต้องสั่งปีกไก่ทอดรสเด็ดแห้งกรอบอร่อย ร้านกาแฟมีหลายมุมให้เลือกเสพกับบรรยากาศถูกใจคอกาแฟ ไม่ว่าจะเป็นม้านั่งให้นอนเอกเขนกฟังเสียงคลื่น หรือมุมให้ต้นไม้มีม่านบาหลีห้อยระลงมาในบรรยากาศโรแมนติก ** ชมภาพสวย ๆเพิ่มเติมได้ที่นี่** ทัวร์ซอกแซกกินครั้งนี้อำลาสมุยด้วยความประทับใจแถมน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นแบบห้ามใจตัวเองไม่ได้ ******************** ข้อมูลเพิ่มเติม ร้านอาหาร ครัวชาวบ้าน ( Krao Chao Baan Restaurant ) Tel.077-418589, มือถือ 089-0095560, 087-2672481 อีเมล์. Becoolkate4@yahoo.com ร้านอาหาร Sixsenses Hideaway Samui โทร. 077 – 245678 www.sixsenses.com, reservations-samui@sixsenses.com ร้านอาหาร The Library 14/1 Moo2 Chaweng Beach Bo Phut Ko Samui Suratthani 84320 โทร 077-422767-8 www.thelibrary.name เรด สแนปเปอร์ บาร์ แอนด์ กริล ( Red Snapper Bar & Grill ) โทร. 077-422008 ร้านอาหาร บาคูบุง ( Bakubung ) Tel. 084-6369090 อีเมล์ : bakubung@hotmail.com ร้านอาหาร สมุย ซีฟู้ด ( Samui Seafood Restaurant ) โทร. 077-429700 ต่อ 5100 www.muangsamui.com Olivio Italian Beachside Restaurant โทร. 077-231500-8 www.baanhaadngam.com ร้าน The Pier 50 Moo 1 Fisherman’s Village Bophud Koh Samui Suratthani84320 Tel.077-430 681-2 |
5 วิธีทำหมูแดดเดียว กรอบนอกนุ่มในทำเองได้อร่อยไม่ง้อร้าน
เนื้อหมูในตู้เย็นซื้อมาเยอะกลัวกินไม่ทันก็จับมาทำหมูแดดเดียว อาหารไทยเก็บไว้กินได้นานกันดีไหม เราขอนำเสนอวิธีทำหมูแดดเดียว มีทั้งแบบง้อแดดและไม่ง้อแดด ต่อไปนี้ไม่ต้องไปหาซื้อหมูแดดเดียวขายส่ง หรือไปเข้าคิวที่หน้าปากซอยกันแล้ว ใครสนใจอยากได้วิธีทําหมูแดดเดียวเค็มแบบเป๊ะ ๆ กินได้ทั้งครอบครัว เลือกสูตรอาหารที่ชอบด้านล่างกันเลย
1. หมูแดดเดียว สูตรตากแดด
วิธีการทำหมูแดดเดียวสุดเบสิกคือการตากแดด วันไหนแดดจัดเตรียมหมูรอเลย ขอนำเสนอเมนูหมูแดดเดียวทอด พอหมักหมูกับซอสเรียบร้อยก็จับไปตากแดด กินกับน้ำจิ้มแจ่วอร่อยมากเลย
ส่วนผสม หมูแดดเดียว
• เนื้อสันคอหมู หั่นเป็นชิ้นยาว ความหนา 1 ซม. จำนวน 1 กิโลกรัม
• น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
• นมข้นจืด 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
• ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วขาว 1/4 ถ้วย
• น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ
• งาขาว 2 ช้อนโต๊ะ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
• น้ำมันพืชสำหรับทอด
วิธีทำหมูแดดเดียวทอด
1. ผสมน้ำตาลทรายกับนมข้นจืด น้ำมันพืช ซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และงาขาว คนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
2. ใส่เนื้อหมูที่หั่นเตรียมไว้ลงเคล้าผสมในส่วนผสมซอส พักทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง จนน้ำซอสซึมเข้าเนื้อหมู
3. วางเนื้อหมูที่หมักไว้เรียงลงบนตะแกรง นำออกไปตากแดดจนเนื้อหมูแห้งหมาด ๆ เก็บใส่ภาชนะปิดให้สนิท นำเข้าแช่แข็ง
4. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง พอร้อนใส่เนื้อหมูลงทอดจนสุกเหลือง ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จาน พร้อมรับประทาน
2. หมูแดดเดียวสูตรอบไม่ตากแดด
ใครว่าการทำหมูแดดเดียวต้องตากแดดเสมอไป ถ้าวันไหนไม่มีแดดแต่อยากกินก็ทำได้นะคะ ใครสนใจมาจดสูตรหมูแดดเดียวอบ จับหมูไปหมักแล้วนำเข้าเตาอบจนแห้ง เสร็จแล้วก็นำมาทอดจนสุก แค่นี้ก็เรียบร้อย
ส่วนผสม หมูแดดเดียวอบ
• เนื้อหมู (สันคอ) 500 กรัม
• กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
• งาขาวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
• พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
• ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำหมูแดดเดียวอบ
1. นำเนื้อหมูมาล้างทำความสะอาด ซับให้แห้งแล้วหั่นยาวตามสไตล์หมูแดดเดียว
2. ผสมกระเทียม งาขาว น้ำตาลทราย และพริกไทย คนให้เข้ากัน
3. ใส่ซีอิ๊วขาวกับน้ำมันหอยลงไป คนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันดี ก็เริ่มหมักหมูกันได้เลย ใส่หมูที่เตรียมไว้คลุกเคล้าให้เข้ากัน (พักหมูไว้ในตู้เย็น 2 ชั่วโมง)
4. พอครบเวลาก็นำหมูออกจากตู้เย็นมาวางเรียงบนตะแกรง เรียงให้ห่างกันเล็กน้อย
5. นำเข้าเตาอบ เปิดไฟบน-ไฟล่าง ระบบพัดลมที่อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส อบเนื้อจนแห้งประมาณ 4 ชั่วโมง
6. ทอดหมูได้เลยค่ะ ทอดจนสุกเหลืองทั้งชิ้น
3. คอหมูแดดเดียว
สำหรับใครที่ชอบเมนูหมูแดดเดียวฉ่ำ ๆ ต้องนี่เลย เมนูคอหมูแดดเดียว สูตรนี้หมักหมูด้วยน้ำสับปะรดเพิ่มความนุ่ม หั่นชิ้นหนาตามชอบ เอาล่ะ... เริ่มหมักหมูกันเลยพี่น้อง
ส่วนผสม คอหมูแดดเดียว
• คอหมู 500 กรัม (คอหมูไม่ใช่สันคอหมูนะครับ คอหมูที่เขาใช้ทำคอหมูย่าง บางที่ใช้สันคอ แต่สูตรนี้เน้นนุ่ม ๆ หนึบ ๆ ถ้าไม่ชอบมัน ๆ ให้แล่เอาส่วนมัน ๆ ออกมา เนื้อส่วนนี้จะเห็นมันแทรกในชั้นเนื้อ ทำให้นุ่มและไขมันนำพารสเครื่องปรุงแทรกเข้ามาชัดเจนมาก)
• สับปะรด (จะใช้ฉ่ำ ๆ หรือจะเอากรอบ ๆ ก็เอามาเถอะ)
• น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
• ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
• พริกไทย 1/2 ช้อนชา
• น้ำมันสำหรับทอด (ใช้ Deep Fry ทอดน้ำมันท่วม ๆ นะครับ อย่าขี้เหนียว)
วิธีทำคอหมูแดดเดียว
• หั่นคอหมูเป็นเส้นยาวประมาณ 1 เซนติเมตร หรือตามชอบ
เคล็ดลับหมักหมู :
1. อย่าหั่นหมูบางมาก เพราะถ้าบางเวลาทอดจะแห้งแข็งสภาพเป็นจิ้งจกแห้งตาย
2. หั่นตัดขวางลายเส้นเนื้อหมู อย่าหั่นตามลายเส้นเนื้อ เพราะถ้าหั่นตามเส้นนะพ่อคุณเอ๋ย หมูจะเหนียวจนเอามาใช้แทนยางรัดถุงแกงได้เลย
วิธีหมักหมูแดดเดียว
• ใส่เครื่องปรุงทั้งหมดลงไป ได้แก่ น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว น้ำมันงา ซอสปรุงรส พริกไทย และน้ำสับปะรด แล้วขยำให้เข้ากัน (ใส่ให้สุดแรง)
เคล็ดลับ :
1. เครื่องปรุงทั้งหมด อนุญาตให้สลับใส่เครื่องปรุงไหนก่อน-หลังก็ได้ไม่มีผลต่อรสชาติ
2. นำสับปะรดมาบีบคั้นน้ำใส่ลงไปสัก 2 ช้อนโต๊ะ อย่าเอาง่ายใส่ไปทั้งชิ้น กินประณีตนิดหนึ่ง
3. สูตรนี้น้ำสับปะรดช่วยให้หมูนุ่มสุด ๆ ผิวหนังที่นวดก็น่าจะนุ่มได้เหมือนกัน สำหรับเครื่องปรุงมีดังนี้ ซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส หัวซีอิ๊วขาว หางซีอิ๊วขาว น้ำมันงา และพริกไทย ใช้ซีอิ๊วขาวตราเด็กอ้วนก็ได้ครับ ที่ใช้ซีอิ๊วขาวอันนี้เพราะกลิ่นหอมมาก รสชาติละมุนไม่เค็มจัดและมีรสหวานอ่อน ๆ บอกเลยว่าอร่อย ได้มาจากข้าวมันไก่ร้านดังที่หาดใหญ่ ใช้หางซีอิ๊วกับน้ำมันงา 2 ตัวนี้ราดไก่ต้มมา ติดใจเลย อยากกินไก่ต้มมันทุกวัน แทบจะไปขอคนสับไก่เป็นเมีย
หมายเหตุ : ส่วนสำคัญอีกอย่างคือ การชิมรสชาติ หากจะให้พอดีตามรสที่ชอบ บางทีตามสูตรนี้อาจไม่ใช่รสโปรดของคุณ ให้บรรจงเอาเครื่องปรุงรสทุกอย่างผสมใส่ถ้วยแล้วแตะลิ้นชิมก่อน ถ้าชอบรสไหน รสอะไรขาดไป เติมเลยครับ หากคนติดหวานใส่น้ำตาลทรายหรือซีอิ๊วดำก็ได้ แต่ถ้าใส่หมักหมูไปแล้ว เอานิ้วที่ขยำ ๆ แตะ ๆ ลิ้นดูหน่อยว่ารสโอเคไหม อย่าให้เค็มมาก เพราะเมื่อเอาไปตากแดดแล้วทอด เนื้อหมูจะแห้ง ทำให้เค็มกว่าเดิม
วิธีตากหมูแดดเดียว
ต่อไปสำรวจบริเวณบ้านที่มีแดดส่อง เลือกพื้นที่ที่แดดส่องทั้งวัน ครั้นจะให้ไปเลื่อนถาดตามแดดทุก 10 นาที ไม่ต้องทำมาหากินพอดี
วางหมูที่คลุกแล้วกระจาย ๆ ชิ้นหมูจัดให้สวยงามลงบนถาด ***อย่าให้เนื้อหมูซ้อนกัน ภาพออกมามันดูไม่งาม รักษาระยะห่างกันไว้สักนิดจะได้แห้งเหี่ยวกันไว ๆ ***
นำถาดหมูที่ได้ไปตากแดด (แขวนยั่วเทวดา ระหว่างรอให้เอาสับปะรดที่เหลือจากคั้นน้ำมานั่งกินรอเวลา)
• ถ้าแดดดี : ประมาณ 4-5 ชั่วโมง กำลังได้ที่
• ถ้าแดดอ่อน : แขวนลืมไว้ได้เลย เย็น ๆ เก็บทีเดียว
• ถ้าแดดอ่อนจัดมาก : ตอนเย็นเนื้อหมูยังชุ่ม ๆ อยู่ เอาไดร์ร้อนเป่าผมช่วยเซต
• ถ้าเริ่มแขวนกลางคืน : แนะนำให้นำไปตากตอนเช้าของอีกวัน จบนะ !!
แต่... ถ้าแถวบ้านไม่มีแดดส่อง หรืออยากกินหมูแดดเดียววันฝนตก หรือสถานที่ตากแถวบ้านไม่อำนวย มีก่อสร้าง มีนกบินไป-มา หมาแมวมารบกวน หมูแดดเดียวจะอุดมไปด้วยฝุ่นและสิ่งไม่พึงปรารถนา ให้แก้ปัญหานี้ด้วย "เตาอบ" จ้า
เอาชิ้นหมูเรียงบนถาดให้เรียบร้อย ใช้กติกาเดิม ***อย่าทับกัน อย่าซ้อนกัน***
อบใช้ไฟบนกับลมร้อน (ให้สภาพเหมือนอากาศบ้านเราตอนเดินไปข้างนอก) ที่อุณหภูมิ 70-120 องศาเซลเซียส เปิดวอร์มเตาได้ที่ก่อนแล้วยัดเข้าไปได้เลย เลือกเวลาตามความเหมาะสม ดูให้น้ำในเนื้อหมูระเหย จนชิ้นเนื้อเริ่มแห้ง (ระหว่างรอให้เอาสับปะรดลูกเดิมที่เหลือจากคั้นน้ำนั่นแหละมานั่งกินรอเวลา)
พอครบเวลาแล้วไม่ว่าจะตากแดดหรือตากเตาได้ที่แล้วถ้ายังไม่กิน ให้เก็บเข้ากล่องถนอมอาหาร แล้วยัดตู้เย็นไปนอนหนาวรอได้เลย อารมณ์ดีวันไหนอยากกิน ค่อยแบ่งออกมาทอดเก็บกินได้ยาว ๆ
วิธีทอดหมูแดดเดียว
1. ตั้งกระทะกะน้ำมันให้ท่วมชิ้นหมู (ถ้าทอดไม่เยอะใช้หม้อใบเล็กใส่น้ำมันทอดแทนกระทะ ประหยัดน้ำมันได้เยอะครับ ถ้าที่บ้านมีฐานะ มีโรงหีบน้ำมันปาล์มเป็นของตัวเอง ใส่ได้ตามสบายเลยครับ จะเอาท่วมหมูหรือจะท่วมบ้านแล้วแต่ฟีลลิ่งเลย)
2. นำไปตั้งไฟกลางค่อนไปทางอ่อน รอจนน้ำมันร้อน
3. การสังเกตว่าน้ำมันร้อนใช้ได้แล้วไม่ยาก ใช้หลังมือครับ หลังมือเป็นส่วนที่รับรู้อุณหภูมิได้ไว ใช้หลังมือ... จุ่มลงไปที่น้ำมัน ถ้ามีฟองอากาศ รู้สึกว่าร้อน ร่างกายดึงมือออกมาโดยอัตโนมัติ แสดงว่าน้ำมันใช้ได้แล้ว หรืออีกวิธีในการเช็กความร้อนของน้ำมัน ให้ใช้หมูที่เราตากชิ้นเล็ก ๆ ใส่ไปดู ถ้ามีเสียงฉ่า ๆ มีฟอง มีน้ำมันกระเด็นดีดใส่ร่างกาย แปลว่าใช้ได้)
4. ทอดหมูดูให้พอเหลืองไม่ต้องออกดำมาก ***ยิ่งทอดนาน หมูยิ่งแข็ง ยิ่งดำไม่น่าทาน*** ปกติจะทอดประมาณสีน้ำตาล ๆ จนผิวเริ่มแห้ง แล้วช้อนขึ้นมาสะเด็ดน้ำมันไว้ ให้ความร้อนทำงานต่ออีกสัก 2-3 นาที สีจะเข้มขึ้นเล็กน้อย
5. เท่านี้ก็ได้ "คอหมูแดดเดียว" ที่รสชาติเข้าเนื้อ แถมชิ้นหมูแห้งแต่ข้างในนุ่มชุ่มฉ่ำ พร้อมเสิร์ฟกับข้าวเหนียวนุ่ม ๆ แล้ว
4. หมูทอดแดดเดียว
หมูแดดเดียว หมูทอดง่าย ๆ ตากแค่พอหมาด แดดเดียวก็พอแล้ว หั่นชิ้นตามชอบหมักกับเครื่องปรุงรส พอทอดจนสุก พร้อมเสิร์ฟกับข้าวเหนียว อร่อยพุงคอนเฟิร์ม !
ส่วนผสม หมูทอดแดดเดียว
• สันคอหมูหั่นเส้น
• กระเทียม
• รากผักชี
• พริกไทย
• เม็ดผักชี 2 ช้อน
• เกลือ
• ซอสปรุงรสฝาเขียว
• น้ำตาลปี๊บ
• รสดี 2 ช้อน
วิธีทำหมูทอดแดดเดียว
1. เอาสันคอหมูมาหั่นเส้น
2. ตำกระเทียม รากผักชี พริกไทย และเม็ดผักชีคั่ว ปรุงรสตามชอบ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
3. เอาไปตากแดดหมาด ๆ เพียงแดดเดียว เสร็จแล้วเอาไปทอดใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อนจนสุก
5. หมูพวง หมูร้อยตอก
แดดร้อนขนาดนี้ เมนูหมูพวงต้องมา จับหมูหมักซอสแล้วเอาไปตากแดดจนแห้ง เสร็จแล้วทอดจนสุก กินกับน้ำจิ้มแจ่ว
ส่วนผสม หมูพวง หมูร้อยตอก
• เนื้อหมูส่วนสะโพก หั่นเป็นเส้น 500 กรัม
• ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
• พริกไทยเม็ด 10 กรัม
• กระเทียม 15 กรัม
หมายเหตุ : สูตรนี้รสชาติจะออกเค็ม ถ้าใครไม่กินเค็มลดปริมาณซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะได้ค่ะ
วิธีทำหมูพวงหมูร้อยตอก
1. โขลกกระเทียมกับพริกไทยให้ละเอียด
2. ใส่กระเทียมพริกไทยที่โขลกแล้ว ซอสปรุงรส และซีอิ๊วขาว ลงไปหมักกับหมู คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักไว้ 30 นาที
3. นำตอกมาร้อยให้เป็นพวงแบบนี้ค่ะ เมื่อเราร้อยหมูเสร็จแล้วให้นำไปตากแดด 2 ชั่วโมงค่ะ (เราตากตอน 4 โมงเย็น)
4. ตั้งน้ำมันให้ร้อนแล้วนำหมูลงทอดค่ะ เมื่อหมูสุกแล้วตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน กินคู่กับข้าวเหนียว จิ้มกับน้ำจิ้มแจ่ว
ขอขอบพระคุณที่มา กระปุกดอทคอม
https://cooking.kapook.com/view151303.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น